เปิดแถลงการณ์ 'กลุ่ม 4 กุมาร' สิ่งสำคัญที่สุด ทำหน้าที่ตามบัญชา 'นายกฯ' เพื่อแก้ปัญหาชาติ
อ่านรายละเอียด เปิดแถลงการณ์ "กลุ่ม 4 กุมาร" สิ่งสำคัญที่สุด ทำหน้าที่ตามบัญชา "นายกฯ" เพื่อแก้ปัญหาชาติ
การที่ "กลุ่ม 4 กุมาร" ในพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. ซึ่งประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ , นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ อดีตกรรมการบริหารพรรค แถลงลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (9 ก.ค.) ที่ผ่านมานั้น มีรายละเอียด แถลงการณ์ ดังนี้
เรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนที่เคารพทุกท่าน
พวกเราเริ่มต้นเข้ามาทำงานการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ด้วยความหวังและความมุ่งมั่นว่าจะนำพาประเทศชาติ ประชาชน และการเมือง เดินหน้าต่อไปได้ ก้าวพ้นความขัดแย้งและการเมืองในรูปแบบเก่า เพื่อให้เป็นการเมืองที่ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม ตามแนวทางประชารัฐ คือรัฐ เอกชน ประชาชน ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาอย่างตรงจุด ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว
การทำงานการเมืองในพรรคพลังประชารัฐที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี พรรคพลังประชารัฐ เป็นที่ยอมรับของประชาชน จนสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความไว้วางใจ ยอมรับในนโยบายของพรรค อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน คือ การเมืองที่สงบ ปราศจากความขัดแย้ง อันจะนาไปสู่การพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำงานเพื่อตอบสนองประชาชนสมกับที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ หลายนโยบายได้รับการขับเคลื่อนและเดินหน้าทันที ไม่ว่าจะเป็น การสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, การช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงการบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลั่นตำแหน่ง 'รัฐมนตรี' เรื่องของนายกฯ - ย้ำลาออก พปชร. วันนี้
"อุตตม-สนธิรัตน์" เปิดใจลาออก พปชร.
จับสัญญาณ 'สภาล่ม'! เบื้องลึกปัญหา 20 พรรครัฐบาล อย่าประมาท 'ยุบสภา'
ปัจจุบัน เราเห็นว่าภารกิจต่างๆ ที่ได้เริ่มต้นไว้นั้น สำเร็จลุล่วงด้วยดีตามความตั้งใจแรกเริ่ม และพรรคพลังประชารัฐ ได้ก้าวผ่านมาถึงการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ จึงถือว่าภารกิจของเราสิ้นสุดแล้วในระดับหนึ่ง
ความเหมาะสมในการบริหารงานเป็นเรื่องของช่วงเวลาและสถานการณ์ ซึ่งเราเองมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้นำพรรคผ่านสนามการเลือกตั้ง จนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทาให้พรรคพลังประชารัฐ ได้มีโอกาสทางานรับใช้ประชาชน ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำให้เราตระหนักและระลึกอยู่เสมอว่า เราจะต้องทางานช่วยเหลือประชาชน ให้สมกับความไว้วางใจที่ได้รับ
วันนี้เราจึงขอประกาศว่า เราลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ได้ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มกาลัง ซึ่งการลาออกครั้งนี้ ไม่ได้มีความขัดแย้งแต่อย่างใด
แม้กระนั้น เราก็ยังจะให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง เพียงแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น
สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือ การทำหน้าที่ฝ่ายบริหารภายใต้การนำและการบังบัญชาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศและทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ คือ ผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19 โดยตั้งเป้าหมายว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นที่พอใจของประชาชนมากที่สุด โดยจะทางานร่วมกับทุกภาคส่วนและทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน
ขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณผู้บริหารพรรค ส.ส. สมาชิกพรรค ที่ให้การสนับสนุนพวกเรามาโดยตลอด การได้ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐถือเป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นความทรงจำที่ล้ำค่า
ขอบคุณครับ
นายอุตตม สาวนายน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล