'แรงงาน' เก้าอี้(เกม)การเมือง ชนวนศึก พปชร. รอบใหม่
ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้า ส.ส. หลายคนใน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องกับการตัดสินใจของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร.
ที่ให้ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ที่เพิ่งจะเคยเป็นส.ส.สมัยแรก ขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรี ปาดหน้าหลายคนที่เป็นส.ส.หลายสมัย และมีประสบการณ์
แม้จะมีเสียงเล็ดลอดของ “บิ๊กป้อม” ออกจากชายคามูลนิธิป่ารอยต่อฯ ทำนองว่ายอมรับความผิดพลาดที่สนับสนุนให้ “นฤมล” มีตำแหน่ง “รมช.แรงงาน” จนมีเสียงยี้ดังระงมจากสังคมและคนในพรรคก็ตาม
เหตุผลที่ “บิ๊กป้อม” ยอมรับเช่นนั้น นั่นก็เพื่อปัดแรงกระเพื่อมจากคนที่ผิดหวังให้พ้นๆไป เพราะมีคนคอยบี้ถามเหตุผลที่แท้จริง ในการตั้ง “นฤมล” จนทำให้รู้ที่มาที่ไปอย่างหนึ่งคือ มีการรับปาก “นฤมล” เอาไว้เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับการหัก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” มาอยู่กับ “บิ๊กป้อม” นั้นเอง ส่วนจะมีเหตุผลอื่นลึกๆ ไปกว่านั้นหรือไม่ มีแค่ “พล.อ.ประวิตร” และ “นฤมล” 2คนเท่านั้นรู้ดีที่สุด
ที่รู้ๆ การปรับครม. คราวหน้าชื่อของ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้รับการยืนยันจาก “บิ๊กป้อม” ให้ขึ้นบัญชีอันดับ1 เป็น “รัฐมนตรี” ในโควตาของพรรค เหมือนที่ “สุชาติ ชมกลิ่น” ส.ส.ชลบุรี เคยอยู่ในลิสต์เบอร์ 1 มาแล้ว หลังหลุดตำแหน่ง “รมว.แรงงาน” ตั้งแต่ครั้งฟอร์มครม. หลังเลือกตั้ง จนได้เป็นสมใจในการปรับครม. ประยุทธ์2/2 ครั้งนี้
เมื่อพูดถึงงานใน “กระทรวงแรงงาน” ที่กำลังเป็นที่จับจ้อง โดยเฉพาะการมีชื่อ “นฤมล” มาเป็น “รัฐมนตรีช่วย” จะได้กำกับดูแลหน่วยงานไหน ทั้งที่ กระทรวงนี้ มีเพียง 3 กรม ได้แก่ กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กับอีก1 “สำนักประกันสังคม”
จำนวนกรมใน “กระทรวงแรงงาน” น้อยกว่าจำนวนกรมใน “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” และ “กระทรวงยุติธรรม” ซึ่งไม่ต้องมีรัฐมนตรีช่วย ด้วยซ้ำ แต่ “กระทรวงจับกัง” กลับมี จนถูกมองว่า กำลังเกิดภาวะ “คนล้นงาน” ขึ้นในกระทรวงนี้
โดยหลักการทั่วไป รัฐมนตรีว่าการจะเป็นคนกำกับดูแลกรมหรือหน่วยงานสำคัญไว้ในมือทั้งหมด แต่บางกระทรวงใหญ่อย่างคมนาคม แม้จะมีการเจียดบางกรมให้รัฐมนตรีช่วยดูแล แต่ก็แทบจะขยับอะไรได้ไม่ถนัดนัก ทุกอย่างต้องขึ้นตรงและผ่านคนนั่งว่าการ ขนาดจะแต่งตั้งบอร์ดในหน่วยงานที่รัฐมนตรีช่วยดูแล ยังต้องได้ไฟเขียวจากคนนั่งว่าการทั้งหมด
แล้วกลับมามองที่ “กระทรวงแรงงาน” ก็เป็นรูปแบบเดียวกัน ที่ “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ก็หวังจะกำกับดูแลทั้ง 3กรม และ “ประกันสังคม” แล้วค่อยมอบหมายแบ่งงานให้ “นฤมล” ตามภารกิจๆไป
หากความจริงไม่ง่าย บริบทกระทรวงนี้ต่างออกไป เพราะ “บิ๊กป้อม” ใหญ่กว่า รัฐมนตรีทั้ง2คน สามารถชี้ซ้ายหันขวาหันได้หมด และเป็นคนแบ่งงานใน “กระทรวงแรงงาน” ในวันที่ “นฤมล” เหมือนมวยได้ใจ โตก้าวกระโดดข้ามหัวใครหลายคน หวังคุม “สำนักงานประกันสังคม” ที่มีเงินกองทุนก้อนใหญ่ มีช่องทางนำไปลงทุนสร้างผลตอบแทนให้สมาชิก ซึ่งใครที่รู้อินไซต์ว่าจะโยกเงินไปวางตรงนั้นตรงนี้ ย่อมเป็นไปได้
ดังนั้น “นฤมล” ที่ขึ้นตรงกับ “บิ๊กป้อม” คงไม่ยี่หระอะไรกับ “เจ้ากระทรวง” อย่าง “เสี่ยเฮ้ง” แน่นอน เมื่อมีอะไรแทนที่จะผ่าน “เสี่ยเฮ้ง” ก็คงยิงตรงผ่าน “บิ๊กป้อม” ดูจะง่ายกว่า แล้วมีหรือที่ “เสี่ยเฮ้ง” จะกล้าหืออือ ด้วยมีวันนี้ได้ก็เพราะ “นายป้อม” ให้
กระทรวงแรงงานยุคนี้ เจ้ากระทรวง อาจเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ระแวง รัฐมนตรีช่วยที่กำลังติดปีก คิดว่ามีแบ็กดี จนไม่รู้ว่า “นฤมล” หรือ “สุชาติ” ใครจะใหญ่กว่ากันแน่
ท่ามกลางภารกิจแก้ปัญหาคนว่างงาน ผลักดันให้กระทรวงนี้เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ดูแลเยียวยากลุ่มคนที่อยู่ในความรับผิดชอบ และสะสางปัญหาอุปสรรคภายใน ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ต้องใช้งบอีกมหาศาล ต่างๆ เหล่านี้ จะไปได้สักกี่มากน้อย
ในเมื่อ “สุชาติ” ที่ไม่มีทางยอม “นฤมล” และ “นฤมล” ก็ไม่ลงหรือสยบให้ เห็นเค้าลางว่าเกาเหลาชามโตใน “กระทรวงแรงงาน” จะเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลอย่างไม่ต้องสงสัย