'บิ๊กตู่' ย้ำเหตุผลที่ต้องอยู่ เพื่อแก้ปัญหาสะสม

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 9 ก.ย.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางทางาเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152  ว่า รัฐบาลยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน หมายถึงคนไทยทั้งประเทศ  ที่มียอดสรุป 66.5 ล้านคน แบ่งเป็น อายุ 0-14 ปี จำนวน  11 ล้านคน, อายุ 15-25 ปี มีจำนวน9.6 ล้านคน, อายุ 26-35 ปี จำนวน 9ล้านคน, อายุ 36-45 ปี จำนวน 10 ล้านคน, อายุ 46-55 ปี จำนวน10 ล้านคน, อายุ 56-65 ปี จำนวน 8ล้านคนและอายุ 66 ปีขึ้นไป จำนวน 7 ล้านคน เมื่อเทียบสัดส่วน นักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 2.2ล้านคน คิดเป็น 23 เปอร์เซ็นต์, ระดับปริญญาตรี จำนวน 1.5 ล้านคน คิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นรัฐบาลต้องทำงาน ทำทุกมาตราเพื่อดูแลกลุ่มคนดังกล่าว แต่จะทำให้ทุกคนพอใจเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เกินความพยายามหากช่วยกัน 

“รัฐบาลและผมห่วงใยในสถานการณ์ภายในประเทศ ทั้งเรื่องโควิด-19 เศรษฐกิจ ด้านอื่นๆ ที่สุด จะทำหน้าที่เต็มที่เพื่อให้ฟื้นโดยเร็วและประเทศเข้าสู่การพัฒนา ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ภายใต้กฎหมาย และงบประมาณที่มีจำนวน ส่วนการกู้เงินนั้น กู้ตามเหตุที่ต้องกู้ ส่วนที่ส.ส.อภิปรายว่าสมัยรัฐบาล คสช. ไม่ถูกตรวจสอบนั้นไม่จริงเพราะที่ผ่านมาถูกตรวจสอบโดยศาลและผมได้ชี้แจงแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงด้วยว่าตนพร้อมรับฟังส.ส.ในมุมมองของส.ส. แม้จะอยู่ฟังในห้องประชุมจำนวนน้อยก็ตาม ทั้งนี้รัฐบาลเคารพในกระบวนการรัฐสภา ทำทุกอย่างโดยชอบธรรมโปร่งใส ป้องกันทุจริต สำหรับหลายปัญหาที่อภิปรายถึง เป็นปัญหาสะสม ทับซ้อนก่อนที่ตนจะเข้าบริหารประเทศ ดังนั้นเหตุที่ตนอยู่เพื่อรับผิดชอบแก้ปัญหาให้ลุล่วง  ส่วนการชุมนุมของนักศึกษานั้น ตนยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับเด็ก แต่มีคนที่ทำให้เด็กมีปัญหากับตน ซึ่งสักวันจะทราบว่าใครทำ อย่างไรก็ดีรัฐบาลไม่ต้องการให้ปัญหาาลุกลาม และต้องการความสงบ ภายใต้ช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา

“ผมขอพูดสักหน่อย ว่าอย่ารังเกียจทหาร ขอให้เขาภาคภูมิใจในอาชีพ และการทำงานที่เสียสละ อดทน มีหลายคนเป็นทหารมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงโจมตี ผมขออย่าแยกทหารออกจากประชาชน อย่าบอกว่าทหารมีแค่ปฏิวัติ เพราะที่ผ่านมาทหารปฏิบัติหน้าที่หลายอย่าง ขอให้ทุกคนร่วมมือ อย่าสร้างความเกลียดชัง ทหารคือลูกหลานของเรา อย่างไรก็ดีรัฐบาลนี้พยายามปรับโครงสร้างปฏิรปแต่การปฏิรูปตามระบบประชาธิปไตยต้องใช้ความร่วมมือ” พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง และกล่าวตอนท้ายด้วยว่า ส่วนที่ส.ส.อภิปรยายพาดพิงเรื่องส่วนตัว ยืนยันว่าสามารถทำงานได้ โดยไม่มีวันหยุดและสั่งงานได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับส.ส.ที่เปิดประเด็นเรื่องส่วนตัวนั้น คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ซึ่งอภิปรายเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ เลิกก๊วนตีกอล์ฟในวันหยุด