'พท.'อัด'รัฐบาล'การ์ดตกป้องกัน'โควิด'ปล่อยลักลอบเข้าเมือง
"อรุณี" อัด "รัฐบาล" การ์ดตก ป้องกัน "โควิด" ปล่อยลักลอบหนีเข้าเมือง จี้ พูดความจริง 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ไร้ประโยชน์ เอาไว้คุมม็อบเท่านั้นหรือไม่ ด้าน "จักรพล" โอด กระทบท่องเที่ยว ทุ่มงบไปสำเร็จหรือไม่
น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การกลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในหลายจังหวัดที่มีรอยต่อติดกลับชายแดน อย่างกรณี จังหวัดเชียงราย ซึ่งมาจากสาเหตุการลักลอบข้ามแดนของคนไทยกลุ่มหนึ่ง นอกจากจะเกิดจากพฤติกรรมส่วนบุคคลที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ยังมีเรื่องความผิดพลาดการ์ดตกของรัฐบาลเองด้วยในการป้องกัน ไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดน ทั้งที่มีการเตือนจากหลายฝ่ายตั้งแต่เริ่มมีการระบาดอย่างหนักในประเทศเพื่อนบ้าน
น.ส.อรุณี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะตลอดแนวชายแดนที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงมีอำนาจพิเศษในการควบคุมพื้นที่ แต่ทำไมจึงไม่ระแคะระคายหรือไม่รู้ข้อมูลเรื่องการลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติบ้าง ทั้งที่คนในพื้นที่หรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างก็รับรู้กันเป็นอย่างดี ประเด็นเหล่านี้รัฐบาลต้องตรวจสอบและพูดความจริงกับประชาชนด้วย หรือจริง ๆ แล้ว พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยกับการควบคุมโควิด นอกจากเอาไว้คุมม็อบเท่านั้นใช่หรือไม่
“รัฐต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงด้วยว่าทำไมคนไทยเหล่านี้จึงลักลอบเข้ามาได้ ปัญหาอยู่ตรงไหนและจะแก้อย่างไร อย่าเพียงชี้นิ้วโทษแต่คนอื่น และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องมีเอกภาพในการให้ข้อมูลผู้ติดเชื้อที่เกิดจากการลักลอบข้ามแดน เพราะไม่เช่นนั้นหน่วยงานรัฐจะเป็นผู้สร้างความตื่นตระหนกเสียเอง อย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่หน่วยงาน 3 แห่งพูดข้อมูลตัวเลขไม่ตรงกัน คือ ระดับจังหวัด กรมควบคุมโรค และ ศบค.”
นางสาวอรุณี กล่าวว่า วันนี้อยากเรียกร้องให้คนไทยไม่ตื่นตระหนกกับการกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ของเชื้อโควิดเพราะยังเป็นเพียงการติดเชื้อเฉพาะบุคคลที่ข้ามแดนและคนใกล้ชิดจริงๆ เท่านั้น ยังไม่มีการแพร่เชื้อในแบบที่ควบคุมไม่ได้ ที่สำคัญเราเคยผ่านสถานการณ์หนักกว่านี้มาแล้วในช่วงแรกๆ และสามารถผ่านมันมาได้ ดังนั้นจึงขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตลอดจนแพทย์ พยาบาลในการทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และดูแลป้องกันตัวเองตามหลักสาธารณสุขที่ถูกต้อง
ขณะที่นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นถือว่าส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการ เพราะหลังจากหลายเดือนที่ผ่านมาภาพรวมภาคธุรกิจการท่องเที่ยวกำลังดีขึ้น ธุรกิจโรงแรมและที่พักกำลังฟื้น การจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เริ่มกลับมาคึกคัก หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามาเชื่อว่ารายได้การท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาสู่ประชาชนในพื้นที่อย่างแน่นอน
นายจักรพล กล่าวว่า เมื่อมีเหตุการณ์การระบาดลอบใหม่จากผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีเชื้อไวรัสโควิด-19เข้ามาในพื้นที่ด้วยส่งผลกระทบกับภาพรวม โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรง นักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพัก งานกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวทุกอย่างที่วางแผนไว้ช่วงปลายปีต้องยกเลิกทั้งหมด ภาพ รวมทั้งโครงการไทยเที่ยวไทยที่รัฐกำลังส่งเสริมคงล้มเหลวจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบกับรายได้การท่องเที่ยวหายไปทั้งหมด
นายจักรพล กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ งบประมาณที่รัฐทุ่มลงไปในการจัดการปัญหาไวรัสโควิด-19กับการฟื้นฟูประเทศ สรุปแล้วประสบความสำเร็จหรือไม่ ภาคอุตสาหกรรมสามารถฟื้นฟูจริงตามเป้าหายหรือไม่ อยากให้รัฐบาลประเมินผลการทำงานที่ผ่านมาว่าใช้เงินกู้ได้สัมฤทธิ์ผลตามที่รัฐบาลคาดไว้หรือไม่
"นอกจากนี้อยากให้รัฐบาล โดยเฉพาะ กระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารวมไปถึงกระทรวงการคลัง ต้องบูรณาการร่วมกันเพื่อหาทางออกในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศ อย่าให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลว่ารัฐบาลล้มเหลว ไม่สามารถระงับการแพร่เชื้อในการป้องกันไวรัสโควิด-19 รอบ 2 จนกลายเป็นรัฐล้มเหลวในที่สุด”นายจักรพล กล่าว