'สุทิน' มั่นใจข้อมูลซักฟอกช็อครัฐบาล แต่นายกฯตายด้านคงไม่รู้สึกอะไร

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นกกต.ตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำ พรรคเพื่อไทย หลังจากเขียนจดหมายให้กำลังใจผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ถ้าตามกฎหมายแล้วการครอบงำพรรคการเมือง คือ การเข้ามาครอบงำการบริหารพรรค แต่สำหรับเขียนจดหมายดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับการบริหารพรรค  โดยเป็นเรื่องส่วนตัวที่นายทักษิณเชียร์ผู้สมัครและคุยกับประชาชน ซึ่งไม่ได้มีลักษณะของการบริหารพรรค จึงเชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่านายทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย นายสุทิน กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด แต่เรื่องที่เกิดขึ้นต้องแยกให้ออกว่าเป็นการครอบงำการบริหารพรรคหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าไม่ใช่การบริหารพรรคแต่อย่างใด และขอยืนยันว่านายทักษิณไม่ได้มีความเกี่ยวข้องพรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ นายสุทิน กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เตรียมหารือกับฝ่ายค้านในวันที่ 16 ธ.ค.เพื่อให้มาร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า เข้าใจว่า นายชวนน่าจะหารือกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภายหลังพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายสมพงษ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ ว่าจะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรคมีมติไปแล้วว่าไม่เข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ไปแล้ว ดังนั้น ต้องลองดูว่าหากประธานรัฐสภาขอความร่วมมือ ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่าทีของพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรคจะมีมติอย่างไร

ส่วนความคืบหน้าในการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องการกำกับและตรวจสอบรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องทีเราทำกันมานานแล้ว ระหว่างนี้หากใครพบประเด็นอะไรก็ให้เก็บไว้แล้วหาข้อมูล โดยเวลานี้มาสรุปกันรอบหนึ่งแล้วว่ามีหลายเรื่องที่เข้าเกณฑ์สามารถนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และระหว่างนี้ให้แต่ละพรรคไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ที่สุด เชื่อว่าหลังปีใหม่น่าจะได้ข้อสรุป โดยอาจจะยื่นญัตติได้ประมาณเดือนม.ค.2564  เนื่องจากสมัยประชุมสภานี้จะสิ้นสุดลงในเดือนก.พ.

เมื่อถามว่า จากการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายค้านมีอะไรเป็นหมัดเด็ดและทำให้การอภิปรายมีน้ำหนักมากขึ้น นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ โดยรู้แต่ว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล้มเหลว หากความล้มเหลวเกิดจากเหตุสุดวิสัยนั้นไม่เป็นไร แต่ปรากฎว่าความล้มเหลวเกิดจากการไม่รู้เรื่องและการวิเคราะห์ที่ผิดพลาด และเกิดการทุจริตซ้ำ เป็นเรื่องไม่น่าให้อภัย เพราะทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาล รวมทั้งยังมีอีกหลายเรื่องที่ได้สร้างความเสียหายในวงกว้างและเป็นการวางพื้นฐานให้เกิดทางตันในระยะยาว เช่นเดียวกับ การแก้ไขปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เรามีข้อมูลลึกๆว่ามีบางเรื่องที่รัฐบาลไม่ควรทำเพราะไม่ชอบด้วยกฎหมายและยังผิดหลักมนุษยธรรม 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่าไม่กลัวการอภิปรายแม้ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลที่ทำให้ช็อคได้ นายสุทิน กล่าวว่า "คิดว่านายกฯเป็นมาขนาดนี้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เป็นคนไร้ความรู้สึกของประชาชน ไม่ร้อนไม่หนาวแล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกที่นายกฯจะไม่กลัว"

เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่จะทำให้รัฐบาลช็อคนั้นฝ่ายค้านมีแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า "ถ้าเป็นคนอื่นคงช็อค แต่ถ้าเป็นนายกฯก็ไม่รู้ เราไม่ได้บอกว่าหนานะ แต่บอกว่าแกมีความรู้สึกเหมือนกับคนตายด้านแล้วสำหรับความเดือดร้อนของประชาชน" 

"ข้อมูลที่จะอภิปรายนั้นจะเน้นคนในครม. ถ้าเปิดออกมาแล้วนายกฯบอกว่าไม่รู้ คนจะไม่เชื่อ เพราะไปทุจริตในที่ที่ไม่ควรทุจริต" นายสุทิน กล่าว 

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายค้านมาหักเหลี่ยมกันเองเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะที่ผ่านมาประสบการณ์ในการเป็นฝ่ายค้านยังน้อย และพรรคร่วมฝ่ายค้านต่างเป็นส.ส.มือใหม่หัดขับเท่านั้น ดังนั้น เราอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง คือ ความไม่เจนจัด แต่มาวันนี้เราเชื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมีประสบการณ์และเล่นเข้าขากันแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งจะมีการติวเข้มกันเป็นปกติ และตรวจสอบข้อมูลกันให้ครบถ้วนต่อไป