เดิมพันเก้าอี้ ‘เฮ้ง สุชาติ’ โควตาองครักษ์ ‘ประยุทธ์’

ลงทุน ซื้อใจ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แบบสุดตัว เมื่อเฮ้ง “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน พรรคพลังประชารัฐ ออกตัวแทน พร้อมชกกับ เต้ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ออกลูกห้าวท้าชกตัวต่อตัว เดิมพันตำแหน่งผู้นำ

เรื่องโจ๊กการเมืองรอบนี้ หลายคนคงคิดไม่ถึงว่า คนระดับรัฐมนตรีจะกระโดดลงมาร่วมวงให้มีชื่อถูกพูดถึง ในจังหวะที่ตัวเองตกเป็นเป้าฝ่ายค้าน ถูกลากขึ้นเขียงซักฟอกเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน โดยครั้งที่แล้ว สุชาติได้รับคะแนนโหวตไว้วางใจเป็นรองบ๊วย แต่ก็ยังสามารถรั้งตำแหน่งรัฐมนตรีเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นถึงตอนนี้

ด้วยงานในกระทรวงแรงงานที่มีล้นมือ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ต้องดูแลเยียวยาผู้ประกันตน ผู้ใช้แรงงาน ทุกอย่างที่ดำเนินการไป สุชาติจะรายงานตรงถึงนายกฯ อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีตกหล่น

อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเมืองของ “เฮ้ง สุชาติ” นับว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากบทบาทการเป็นคนใกล้ชิด “สมชาย คุณปลื้ม” หรือ “กำนันเป๊าะ” อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุขจ.ชลบุรี จนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นบอดี้การ์ดอย่างไรอย่างนั้น ก่อนได้รับความไว้วางใจจากกำนันคนดังภาคตะวันออก ปลุกปั้นจนได้เป็น ส.จ.ชลบุรี

จากนั้นจึงขยับไปลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี ได้เข้าสภาสมัยแรกในสีเสื้อ “พรรคพลังชล” เมื่อปี 54 จนมาถึงการเลือกตั้งปี 62 สุชาติย้ายออกมาสังกัด “พรรคพลังประชารัฐ” ได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 2 และได้เป็นรัฐมนตรีในที่สุด

ด้วยแรงผลักดันจาก “วิรัช รัตนเศรษฐ” แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่เห็นหน่วยก้านดี จึงสนับสนุน “สุชาติ” อย่างเต็มที่ มีการพาไปฝากเนื้อฝากตัวกับ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ยังไม่มีบทบาทในพรรคโดยตรง

จากนักการเมืองโนเนมในสนามใหญ่ ชื่อของ เฮ้ง สุชาติ ก็เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นมา

และแล้วสุชาติก็ได้นั่งตำแหน่งเสนาบดีสมใจ ในเก้าอี้ “จับกัง1” จึงสนองนโยบาย ได้ทำงานใกล้ชิดกับนายกฯ มากยิ่งขึ้น และปวารณาตัวเป็นองครักษ์ของนายกฯ เต็มตัว

ถึงแม้ระหว่างทางต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในพรรคเดียวกัน รวมถึงท่าทีของสุชาติต่อ “บ้านใหญ่แสนสุข” ที่อาจแปรเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะสถานะของเขาในวันนั้นกับวันนี้ เติบใหญ่จนไม่ใช่ “เฮ้ง” คนเก่าอีกต่อไปแล้ว

ไม่แปลก ถ้าบ้านใหญ่หลังที่ 2 ของเมืองชล จะมีชื่อ "เฮ้ง สุชาติ" กุมบังเหียน ตรงนี้จึงเป็นคำตอบว่า เพราะเหตุใดโควตารัฐมนตรีของชลบุรี จึงมี 2 ที่นั่ง ทั้ง “อิทธิพล คุณปลื้ม” รมว.วัฒนธรรม ที่มาในโควตา “บ้านใหญ่แสนสุข” และเก้าอี้ "สุชาติ” ที่ไม่ได้อิงโควตา “คุณปลื้ม” รุ่นลูกนั่นเอง

ในอนาคต เส้นทางข้างหน้าของ “สุชาติ” ไม่มีใครรู้ถึงโชคชะตาได้ดีกว่าตัวเขาเอง ว่าจะเติบโตไปมากกว่านี้หรือไม่ แต่วันนี้ “สุชาติ” อยู่ในช่วงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถต้านทานคลื่นลมแรงกระเพื่อมทางการเมือง และแข็งแรงพอจะยืนได้ด้วยขาตัวเอง

หากความเป็นจริงในทางการเมือง ไม่มีอะไรแน่นอน การจะบินขึ้นสูง ก็จำเป็นต้องมีคนที่คอยเป็นลมใต้ปีก เหมือนที่ “สุชาติ” เคยได้รับมาตลอดจนมีวันนี้