นายกฯ สั่งปราบปรามการลักลอบจำหน่าย “ฟาวิพิราเวียร์” ไม่ผ่านอนุมัติจาก อย.
นายกฯ สั่งปราบปรามการลักลอบจำหน่าย “ฟาวิพิราเวียร์” ไม่ผ่านอนุมัติจาก อย. พร้อมให้ทุกหน่วยงานเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อยากินเอง หวั่นเสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งเจ้าหน้าที่กวดขัน จับกุมการลักลอบจำหน่ายยา “ฟาวิพิราเวียร์” ปลอม ไม่ผ่านอนุมัติจาก อย. ถือเป็นการหลอกลวงประชาชนขั้นรุนแรง เพราะเป็นการซ้ำเติมผู้ป่วยและอาจทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง อีกทั้งเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ระมัดระวังการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ ควรเลือกซื้อจากร้านทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้
นอกจากนี้ "ยาฟาวิพิราเวียร์" เป็นยาควบคุมพิเศษ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงจากผลข้างเคียง เช่น ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จึงไม่สามารถจำหน่ายให้ประชาชนผ่านช่องทางทั่วไปได้
นายธนกร กล่าวอีกว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 9 ราย จากการลักลอบจำหน่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ยี่ห้อฟาเวียร์ ผ่านสื่อออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดยาฟาวิพิราเวียร์ ของกลาง จำนวน 390 กล่อง ซึ่งได้แจ้งดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐานขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 ฐานประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากประชาชนช่วยกันสอดส่อง พบเห็นการกระทำลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือหากพบเห็นการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย. 1556 นายกรัฐมนตรีสั่งดำเนินการอย่างเด็ดขาดและให้ดำเนินการรับโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยาที่ถูกผลิตหรือที่รัฐบาลโดย สธ. นำเข้ามาในประเทศไทยผ่าน อย. สามารถตรวจสอบได้