บทเรียนซ้ายสิ้นหวัง ทักษิณ ตา(ไม่)สว่าง
"ทักษิณ" มีข้อจำกัดเรื่องทะลุเพดาน ยิ่งส่งลูกสาวลงสนามการเมือง ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เลือกตั้งครั้งใหม่ มีเดิมพันสูง พลาดนิดเดียว ไม่ได้กลับบ้านตลอดชีวิต
อันเนื่องมาจากข้อเขียนของ "ทักษิณ ชินวัตร" ประเด็นดราม่า 112 ส่งผลให้พรรคเพื่อไทย ถอย แต่ยังให้กลุ่มแคร์ชักธงแก้ ม.112 เพื่อรักษาฟอร์มไว้หน่อย
ดูเหมือนว่า "ทักษิณ" ไม่แคร์ต่อปฏิกิริยาจากขบวนการสามนิ้วมากนัก เพราะตลาดของเพื่อไทยนั้น เป็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ และคนรากหญ้าในชนบท
ที่สำคัญ ทักษิณ ไม่ประมาทพลังฝ่ายขวา บทเรียนกรณีม็อบคนเสื้อเหลือง และม็อบ กปปส. ได้สะท้อนถึงพลังอนุรักษนิยมที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย
ทักษิณจึงเล่นหลายหน้า ใช้ทั้งเพื่อไทย และกลุ่มแคร์ ประคองฐานเสียงเดิม และช่วงชิงฐานเสียงคนรุ่นใหม่
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้อธิบายว่า พรรคจะไม่ยกร่างแก้ไข ม.112 แต่พร้อมจะรับเรื่องที่ภาคประชาชนเสนอมา และให้มีการพูดคุยกันในสภาฯ ไม่ต้องไปเคลื่อนไหวบนท้องถนน
อ่านข่าว : ‘ทักษิณ’ ชี้ 112 ไม่ใช่ปัญหา แต่ปฏิบัติไม่ถูก แนะ หยุดดราม่า แก้ให้ตรงจุด
กลุ่มแคร์ โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ก็ชูธงแก้ไข ม.112-ม.116 ขานรับการล่ารายชื่อเสนอแก้ไข ม.112 ของกลุ่มราษฎร ซึ่งบทบาทของกลุ่มแคร์ ไม่ต่างจากกลุ่มก้าวหน้า
อย่างไรก็ตาม กลุ่มแดงตาสว่าง โดยสมยศ พฤกษาเกษมสุข ไม่เล่นด้วยกับทักษิณ จึงออกมาชำแหละผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ว่าด้วยสเตตัส "ทักษิณ ชินวัตร ตายน้ำตื้นอยู่เสมอ" ตอนหนึ่ง สมยศได้ยกตัวอย่างคนใกล้ชิดทักษิณ ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยการเมือง "...ทักษิณ อาจลืมไปแล้วว่า อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ทำงานให้พรรคเพื่อไทยเต็มที่ในช่วงวิกฤติของพรรค โดนกล่าวหามาตรา112 จนต้องลี้ภัยไปต่างแดน..."
สมยศยกชื่อมาหลายคน เพื่อจะบอกว่า ทักษิณสู้แบบนี้ จึงทำให้ลูกน้องต้องรับเคราะห์กรรม โดยเฉพาะแดงตาสว่างที่ไปพักพิงแถวประเทศเพื่อนบ้าน ได้สูญหายไปหลายคน
ถ้ายังจำกันได้ ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลุ่มแดงตาสว่าง พยายามจะยกเพดานการต่อสู้ด้วยการเสนอแก้ไข ม.112 แต่ก็ถูกแดง นปช. และเพื่อไทย ลอยแพ
ปี 2555 วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ในนามคณะนิติราษฎร์ ได้ส่งไม้ต่อให้ “คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112” (ครก. 112) รวบรวมรายชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 112 ฉบับที่คณะนิติราษฎร์จัดทำขึ้น เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อาสาเป็นหัวหอก ครก.112 โดยมีกลุ่มแดงตาสว่าง ที่มี ไม้หนึ่ง ก.กุนที แกนนำแดงไผ่แดง 52 และจรัล ดิษฐาอภิชัย ประสานงานกับแดงอิสระทั่วประเทศ
29 พ.ค.2555 ครก.112 นำโดย ชาญวิทย์ จึงเคลื่อนขบวนสู่สภา โดยใช้คนหาบกล่องรายชื่อประชาชน 3 หมื่นกว่าคน ที่ร่วมเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 เมื่อถึงรัฐสภา วิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่ 2 สมัยนั้น เป็นตัวแทนรับมีรายชื่อทั้งหมด 12 กล่อง
แกนนำ ครก.112 ประเมินว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มีเสียงในสภาฯ 300 เสียง และการต่อสู้ภาคประชาชนอยู่ในกระแสสูง จึงเสนอแก้ไขมาตรา 112 โดยความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบสนองจาก ส.ส.เพื่อไทย
1 พ.ย.2555 ชาญวิทย์อยู่ที่สหรัฐ ได้รับข่าวร้ายจากพรรคพวกในเมืองไทยว่า สภาฯเขี่ยร่างแก้ไขมาตรา 112 ที่เสนอโดยภาคประชาชนทิ้ง ทำให้นักวิชาการหัวก้าวหน้ารู้สึกผิดหวังอย่างแรง
เวลานั้น ปิยบุตร แสงกนกกุล ก็เป็นหนึ่งในคณะนิติราษฎร์ ที่มีส่วนร่วมผลักดันให้เกิดร่างแก้ไข ม.112 ฉบับประชาชน ด้วยเหตุนี้ ปิยบุตรในวันที่เป็นเลขาธิการคณะก้าวหน้า จึงชูคำขวัญยกเลิก ม.112
สำหรับชาญวิทย์ ก็ได้ประจักษ์เรื่องการเกี้ยเซี้ย หรือสู้ไปกราบไป ซึ่งกลุ่มแดงสว่างเห็นตรงกันในเรื่องดังกล่าว ฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ กลุ่มแดงตาสว่างสรุปว่า ทักษิณไม่เปลี่ยน ทักษิณชอบตายน้ำตื้น
ทักษิณมีข้อจำกัดเรื่องทะลุเพดาน ยิ่งส่งลูกสาวลงสนามการเมือง ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เลือกตั้งครั้งใหม่ มีเดิมพันสูง พลาดนิดเดียว ไม่ได้กลับบ้านตลอดชีวิต