ลดโทษ “บุญทรง” สะเทือน “ทักษิณ” จ่อคิวทุจริต “ข้าวจีทูจี”ภาค 2
ความคืบหน้าคดีนี้ งวดเข้าไปทุกขณะ มีการแจ้งข้อกล่าวหา “คีย์แมนสำคัญ” กรณีนี้แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างสรุปสำนวนพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเตรียม “ปิดจ็อบ” ให้เสร็จช่วงต้นปี 2565 ที่จะถึงนี้ ขณะที่ “ตัวละครการเมือง” บางคนอาจถูกกันไว้ “เป็นพยาน” เนื่องจากเป็นผู้ “คายความลับ”
ควันหลงการลดโทษผู้ต้องขัง “คดีทุจริตคอร์รัปชัน” กำลังเป็น “เผือกร้อน” ถูกโยนถามไปยังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้กลั่นกรองขั้นตอนสุดท้าย
พลันที่มีข่าวว่าผู้ต้องขังระดับ “คีย์แมน” คดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภาคแรก เหลือโทษจำคุกแค่ไม่กี่ปี ทั้งที่เพิ่งมีคำพิพากษาจากองค์คณะที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา สั่งจำคุกเพิ่มเติมเมื่อปี 2562 โดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โทษเพิ่มเติมเป็น 48 ปี แต่ได้ลดโทษรวมเหลือ 10 ปี
ส่วนนักโทษคดีนี้รายอื่น เช่น นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ โดนจำคุก 36 ปี ได้ลดโทษรวมเหลือ 8 ปี นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำคุก 40 ปี เหลือโทษจำคุก 8 ปี นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” จำคุก 48 ปี ได้ลดโทษเหลือจำคุก 6 ปี 3 เดือน 26 วัน เป็นต้น
เบื้องต้น “นายกฯ บิ๊กตู่” ให้สัมภาษณ์กรณีนี้ว่า “เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม” ทำให้องคาพยพในสังคมหลายภาคส่วนออกมา “กังขา” ทันควัน นำโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT แถลงการณ์ด่วนถึง พล.อ.ประยุทธ์ คัดค้านการลดโทษผู้ต้องขัง “คดีคอร์รัปชัน” และให้พิจารณาทบทวนนำหลักเกณฑ์การอภัยโทษฯ เมื่อปี 2559 มาบังคับใช้
เช่นเดียวกับ “มือปราบจำนำข้าว” อย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคไทยภักดี บี้รัฐบาลให้ปลดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน พ้นเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ หนึ่งในหัวหอก “40 ส.ว.” ตั้งกระทู้ถามนายสมศักดิ์ถึงเหตุผลในการลดโทษผู้ต้องขังคดีนี้ ขณะที่เจ้ากระทรวงยืนยัน “เป็นไปตามกฎหมาย”
เมื่อเกิดกระแสตีกลับอย่างร้อนแรงเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ “กลับลำ” ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า สั่งการให้ทบทวนการลดโทษ-นิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีทุจริตใหม่ โดยเตรียมแก้กฎระเบียบให้เหมาะสมต่อไป
ข้อพิพาทเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แค่ถูกถกเถียงกันในแวดวง “การเมือง” เพียงอย่างเดียว ทว่าหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมหลายแห่งมีการ “ตั้งคำถาม” ถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ด้วย
แหล่งข่าวระดับ “ฝ่ายบริหาร” หน่วยงานยุติธรรมไทยแห่งหนึ่งถึงกับตัดพ้อว่า “ทุกคนช่วยกันทำงาน ค้นหาพยานหลักฐานการทุจริตกันมาหลายปี กว่าเรื่องจะเข้าสู่ศาล กว่าองค์คณะผู้พิพากษาในศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา สุดท้ายจำเลยติดคุกจริงแค่ไม่กี่ปี ต่อจากนี้ไปใครจะกลัวการทุจริต”
สำหรับการระบายข้าวจีทูจีสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการทำสัญญาทั้งสิ้น 10 สัญญา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่ามีการกระทำทุจริตอย่างน้อย 8 สัญญา (โปร่งใส 2 สัญญา สมัยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็น รมว.พาณิชย์)
“คดีระบายข้าวจีทูจี” ปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค โดยภาคแรกจำนวน 4 สัญญา ความเสียหายประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก ฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้อง 3 ราย ได้แก่ นายบุญทรง 48 ปี นายภูมิ 36 ปี และ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ “หมอโด่ง” อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ คีย์แมนสำคัญ 50 ปี (ปัจจุบันหลบหนีคดี) ไปแล้ว ฝ่ายข้าราชการประจำ 3 ราย ได้แก่ นายมนัส 40 ปี นายฑิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักบริหารการค้าข้าว 32 ปี นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ 24 ปี พ่วงด้วยกลุ่มเอกชน “สยามอินดิก้า” นำโดย “เสี่ยเปี๋ยง” 40 ปี และพรรคพวกอื่นอีกหลายสิบราย
ส่วนภาคสอง อีก 4 สัญญา วงเงินความเสียหายอีกหลายหมื่นล้านบาท โดยมีตัวละครเชื่อมโยงกับคดี “จีทูจีภาคแรก” หลายคน เช่น นายบุญทรง พ.ต.นพ.วีระวุฒิ นายมนัส และนายอภิชาติ เป็นต้น อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงต้นปี 2562 ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและเพิ่มชื่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง “ฝ่ายการเมือง” และ “เอกชน” ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมอย่างน้อย 71 ราย
ประเด็นที่น่าสนใจ คดีดังกล่าวปรากฏชื่อของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย (แกนนำกลุ่มวังน้ำยม ต้นสังกัดกลุ่มการเมืองของนายบุญทรง) และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมคดีนี้ด้วย
มีรายงานว่า กรณีนี้ ป.ป.ช. ได้หลักฐาน “เชิงลึก” เป็นคลิปวีดีโอว่ามี “นักการเมืองชื่อดัง” วีดีโอคอลจากต่างประเทศมาสั่งการในเรื่องระบายข้าวจีทูจี โดยให้ซื้อขายข้าวผ่าน “เอกชน” บางราย โดยในห้องนั้นมี “บิ๊กการเมือง” ของ “พรรครัฐบาล” ขณะนั้น เข้าไปร่วมนั่งฟังด้วย ก่อนจะเกิดกรณี “ทุจริตฉาว” อย่างที่ปรากฏในคำพิพากษาของศาล จนเป็น “หลักฐานมัด” พฤติการณ์ของบุคคลที่ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม
ความคืบหน้าคดีนี้ งวดเข้าไปทุกขณะ มีการแจ้งข้อกล่าวหา “คีย์แมนสำคัญ” กรณีนี้แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างสรุปสำนวนพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเตรียม “ปิดจ็อบ” ให้เสร็จช่วงต้นปี 2565 ที่จะถึงนี้
ขณะที่ “ตัวละครการเมือง” บางคนอาจถูกกันไว้ “เป็นพยาน” เนื่องจากเป็นผู้ “คายความลับ” ทุกเงื่อนปมในคดีดังกล่าว จนนำไปสู่การประกอบ “จิ๊กซอว์” ได้สำเร็จ
เป็นอีก “หนึ่งดาบ” สกัด “คนแดนไกล” ให้ฝันค้าง โอกาสกลับบ้านแบบเท่ ๆ คงไม่ใช่ในเร็ววันนี้