“ดร.เอ้” ลุยบางขุนเทียน ระดมสมองชาวบ้าน ใช้หลักวิศวกรรมแก้น้ำทะเลกัดเซาะ
“เอ้ สุชัชวีร์” ลงพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน ร่วม ส.ก.-อดีต ส.ส.ปชป. รับฟังปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง ระดมสมองชาวบ้านช่วยแก้ไขการกัดเซาะ เชื่อ กทม.เปลี่ยนแปลงได้ด้วยหลักวิศวกรรม
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2564 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายสารัช ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางขุนเทียน และนายสากล ม่วงศิริ อดีต ส.ส. 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณชายทะเลบางขุนเทียน เพื่อรับฟังปัญหาของเขตบางขุนเทียน ซึ่งกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากน้ำทะเลหนุนสูง และในอนาคตเมื่อปัญหาโลกร้อนหนักขึ้น ก็จะยิ่งทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น ปัจจุบันเขตบางขุนเทียนสูญเสียที่ดินจากการถูกน้ำทะเลกัดเซาะลึกเข้ามากว่า 2 กม. สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนและที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชน
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนป้องกันน้ำทะเลหนุนของ กทม. มีลักษณะเป็นไม้ไผ่ซึ่งไม่ใช่วัสดุทำเขื่อนป้องกันทะเลได้ เพราะไม่มีความแข็งแรง เมื่อติดตั้งเพียง 1-2 ปี เจอแดดและความชื้นไม่นานก็เสื่อมสภาพ กลายเป็นขยะไหลเข้าไปในวังเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงหอยของชาวบ้าน ส่วนการไฟฟ้านครหลวงบริจาคเสาไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว มาปักเป็นแนวเขื่อนป้องกันทะเล แม้มีคุณภาพดีกว่าต้นไผ่ แต่ก็ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาได้ เพราะเสาไฟฟ้าจะเอียงตามสภาพของแรงคลื่นที่กระทบตลอดเวลา ถือเป็นการช่วยเหลือเพียงชั่วคราว รวมทั้งการปลูกป่าโกงกางเพื่อป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากน้ำทะเลซัดจนต้นโกงกางไม่สามารถหยั่งรากได้
“ในต่างประเทศที่ประสบปัญหาน้ำทะเลหนุน อย่างญี่ปุ่น มาเลเซีย หรือยุโรป จะนิยมใช้วิธีถมด้วยหินเทียม จากการหล่อคอนกรีต มีลักษณะสามขา โดยไม่ใช้หินจริงที่ต้องระเบิดจากภูเขา ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการถมด้วยหินเทียมมีข้อดีคือมีน้ำหนักมาก นอกจากนั้นจะมีช่องให้สัตว์น้ำสามารถเข้าไปวางไข่ได้ ไม่กระทบกับการทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการหล่อคอนกรีตที่บริษัทของไทยสามารถทำได้” นายสุชัชวีร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรม “เอ้ สุชัชวีร์” และคณะเริ่มต้นตั้งแต่เช้าร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มนักปั่นจักรยาน ที่บริเวณสะพานรักษ์ทะเล พร้อมกับรับฟังปัญหาจากกลุ่มนักปั่นจักรยานพบว่า บริเวณสะพานมีที่จอดรถไม่เพียงพอ จึงได้ร่วมเสนอจุดจอดที่วัดหลวงพ่อเต่า พร้อมกับสร้างทางจักรยานพิเศษ 3 กิโลเมตร พร้อมจุดพักมีที่อาบน้ำ ร้านอาหาร เพิ่มความสะดวกสบายให้นักปั่นจักรยานและดึงดูดนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยังประสบปัญหาจากการสัญจรบนสะพานที่มีขนาดทั้งเล็กและแคบ ทำให้ยามเจ็บป่วยไม่สามารถรับส่งคนเจ็บได้ และศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่ถูกยกเลิกไปแล้ว ทำให้ต้องเดินทางหาหมอได้ยากลำบาก
สำหรับในช่วงบ่าย นายสุชัชวีร์ และนายสารัช ม่วงศิริ จะเดินทางเข้าพบปราชญ์ชาวบ้าน ไทยรามัญ กัลยา ปุงบางกระดี่ เพื่อหารือถึงแนวทางการจัดท่องเที่ยว 2 วัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สามารถช่วยสร้างรายได้ให้คนในชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากได้ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหากรุงเทพฯ สามารถแก้ได้โดยหลักวิศวกรรม ในต่างประเทศเจอวิกฤติมาแล้วทั้งนั้น มั่นใจว่าการแก้ปัญหาน้ำทะเลหนุนในบางขุนเทียน #เราทำได้