ASAP ประกาศชัดไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
ASAP ประกาศชัดไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ย้ำผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง เพิ่มพอร์ตรถต่อเนื่อง
‘ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)’ หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) ประกาศชัดเจนไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน กระแสเงินสดยังแข็งแกร่งและสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการ ย้ำแผนธุรกิจรถยนต์ให้เช่ายังเติบโตได้ มั่นใจแนวโน้มกำไรจะกลับมาขยายตัวได้ดีในปีถัดไป จากต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันภัยที่ปรับตัวลดลง
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังเดินหน้าได้ตามแผนงาน ที่บริษัทฯ มีให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาว ระยะสั้น รถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับและรถยนต์ให้เช่าตามการใช้งานจริงภายใต้แบรนด์ asap GO โดยบริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เพียงพอต่อการเติบโตทางธุรกิจประกอบกับสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพื่อขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการวางแผนทางด้านการเงินอย่างรัดกุมเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการดำเนินงาน เช่น การเพิ่มพอร์ตรถยนต์เพื่อผลักดันการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจจาก ณ สิ้นปี 2561 ที่มีรถยนต์ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 15,755 คัน โดยในปีนี้จะเพิ่มอีก 3,000-4,000 คัน รับความต้องการใช้รถยนต์ให้เช่าจากกลุ่มลูกค้าภาคองค์กรธุรกิจและบุคคลทั่วไปมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลดีต่อการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เติบโตและมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนทางการเงินและภาษี (EBITDA) ขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่จะเข้ามาช่วยบาลานซ์กับการบริหารค่าใช้จ่ายต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายจากเบี้ยประกันรถยนต์ที่ดี โดยมีเป้าหมายที่ต้องการรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ ASAP มีแผนจะนำรถยนต์ครบสัญญาเช่ามาจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสองประมาณ 1,200-1,500 คัน ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตจากการขายรถยนต์มือสอง ผ่านช่องทางออนไลน์และผ่าน asap Select ที่มีกำไรต่อหน่วยที่ดีกว่าการนำรถยนต์ไปประมูล โดยบริษัทมั่นใจว่าภายในปี 2563 บริษัทฯ ประเมินว่าจะเป็นปีที่ผลการดำเนินงานกลับมา Turnaround หลังต้นทุนค่าเบี้ยประกันต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ลดลง ที่จะช่วยให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น