แสนสิริ ประกาศร่วมทุนครั้งสำคัญส่งท้ายปีกับ มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์)
"แสนสิริ" เดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ RESILIENT GROWTH ขยายโอกาสในการลงทุนกับยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ญี่ปุ่น "บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด" นำร่องพัฒนาสองโครงการสำคัญ "นาราสิริ บางนา กม.10 และบุราสิริ จตุโชติ" มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนําของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญส่งท้ายปี ผนึกกำลังกับทุนญี่ปุ่น บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อร่วมพัฒนาสองโครงการแนวราบ ได้แก่ บุราสิริ จตุโชติ ตั้งอยู่ใน Community จตุโชติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ขนาดกว่า 184 ไร่ และนาราสิริ บางนา กม.10 หนึ่งในแบรนด์สำคัญใน Sansiri 10 East ลักชัวรีคอมมูนิตีแห่งใหม่กว่า 165 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.10 ไฮไลต์สำคัญคือทั้งสองโครงการตั้งอยู่ใน Sansiri Community (10 East บางนา กม.10 และจตุโชติ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา) ทั้งนี้ แสนสิริมุ่งสร้างโมเดล Sansiri Community ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ และยกระดับให้เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์ อาทิ มีโครงการระดับมาสเตอร์พีซออกแบบเพื่อความยั่งยืนเติมเต็มทุกกิจกรรมครอบครัว, การสร้างสังคมคุณภาพท่ามกลางสิ่งแวดล้อมคุณภาพ, ทำเลที่ตั้งเดินทางสะดวก รวมถึงการบริการหลังการขายที่ยังคงมุ่งเน้นให้โครงการยังคงงดงาม Timeless เสมือนวันแรกที่เข้าอยู่ เป็นสินทรัพย์ที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกสู่รุ่นลูกได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งมั่นใจการร่วมทุนทางธุรกิจในครั้งนี้ จะได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ต่อยอดพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ สร้างมาตรฐานการพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีสู่ Global Brand ร่วมกัน โดยคาดว่าทั้งสองโครงการจะเปิดตัวในปีหน้า (2568)
บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด (MFADT) เป็นบริษัทในเครือของมิตซุย ฟุโดซัง จำกัด ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2560 รับผิดชอบกิจกรรมการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมิตซุย ฟุโดซันในประเทศไทย ทั้งนี้ กลุ่มมิตซุย ฟุโดซังได้พัฒนาธุรกิจในเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศตะวันตกอื่นๆ รวมถึงในจีน ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ INNOVATION 2030 ที่กำหนดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
แสนสิริ ขอขอบคุณ กลุ่มมิตซุย ฟุโดซัง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในหลายด้าน ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของอสังหาฯ ไทยในกลุ่มลักชัวรี เนื่องจากในตลาดนี้เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งแสนสิริเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด หลายโครงการสามารถ Sold Out ในเวลาอันรวดเร็ว จากประสบการณ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 40 ปี และในฐานะแบรนด์ Taste-Maker ที่เข้าใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับ
แผนความร่วมมือกับ มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ แสนสิริ ตามแผนแผนธุรกิจสู่ปีที่ 40 "NAVIGATING THE FUTURE: RESILIENT GROWTH" เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่กับความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ และรักษาอันดับความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ที่พร้อมขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน ล่าสุด ได้ประกาศผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน (สิ้นสุด ก.ย. 67) มีรายได้รวมมาเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มอสังหาฯ อยู่ที่ 28,877 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,009 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวอีก 15 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท