4กลยุทธ์บริทาเนียกวาดยอดขายทะลุเป้า
บริทาเนีย เผย4กลยุทธ์ ทำเลที่เป็นศูนย์กลาง ดีไซน์ฟังก์ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชูเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต กวาดยอดขายทะลุเป้า1.1หมื่นล้าน
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาบ้านจัดสรรกล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวม GDP ของประเทศมีโอกาสเติบโต 3-5% บริษัทจึงยังคงมีความมั่นใจในการเติบโตที่มากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเปิดเผยแผนธุรกิจปี 2566 อย่างเป็นทางการได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้
หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อช่วงปลายปี 2564 บริษัทได้มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยปี 2565 ดำเนินกลยุทธ์ภายใต้คอนเซปต์ 'Growth Together' ควบคู่กับการยกระดับ Brand Promise สู่ "CRAFT a life you love" หรือ "ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก" ส่งผลให้ในปี 2565 บริษัทได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างยอดเยี่ยม สามารถกวาดยอดขาย (พรีเซล) ไปได้มากกว่า 11,045 ล้านบาท หรือเติบโต 32% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่เท่ากับ 8,371 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ยอดขายดังกล่าวมาจากโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายรวมทั้งสิ้น 28 โครงการ ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในปี2565 จำนวน 9 โครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งโครงการใหม่และกลุ่มโครงการที่เปิดตัวในปีก่อนหน้าที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักที่ทำให้ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา เกิดจาก 1.การเลือกบุกทำเลที่เป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ (Hub Location) อาทิ ทำเลศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอย่างอุดรธานี ทำเลเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างระยอง ทำเลแหล่งชุมชนใกล้ศูนย์การค้า โรงเรียน โรงพยาบาล รอบกรุงเทพฯและปริมณฑล
2.การออกแบบแต่ละโครงการให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนทุกเจเนอเรชั่น คำนึงถึงฟังก์ชันที่คนแต่ละเจเนอเรชั่นต้องการใช้งาน ทั้งพ่อ แม่ ลูก รวมถึงผู้สูงอายุ
3.การเพิ่มฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ความร่วมมือกับบริษัท ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด ทยอยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ให้กับบ้านภายใต้โครงการแกรนด์ บริทาเนีย การติดตั้ง EV Charger ให้กับบ้านตัวอย่างโครงการบริทาเนีย อมตะ-พานทอง
และ 4.การให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต เช่น การติดตั้งจุดชาร์จ USB ทุกจุดสำคัญของบ้าน
"แม้เราอาจจะเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เพียง 1 ปีเศษ แต่เรามุ่งมั่นศึกษา Insight ของผู้บริโภค พัฒนาตัวเอง พัฒนาฟังก์ชันใหม่ๆ และขยายไปสู่ทำเลใหม่ๆ ให้กว้างขึ้น ครอบคลุมขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทุกเจเนอเรชั่น และเราจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้ในแบบที่รักจริงๆ" นายสุรินทร์ กล่าว
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพันธมิตรชาติต่างๆ เข้าร่วมทุน (Joint Venture) อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรแล้วจำนวน 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการกว่า 8,850 ล้านบาท กับ 2 พันธมิตร
ได้แก่ 1.บริษัท โลฟิส (ไทยแลนด์) จำกัด กลุ่มทุนจากฮ่องกง เข้าร่วมทุนโครงการบริทาเนีย อมตะ-พานทอง แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 และแกรนด์ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น 2.บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับท็อปจากญี่ปุ่น เข้าร่วมทุนโครงการบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 และบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17
สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้วิสัยทัศน์ CRAFT a life you love พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ 1.เบลกราเวีย บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท
2.แกรนด์ บริทาเนีย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2565 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 30 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 36,449 ล้านบาท