แสนสิริลุยลงทุนผงาดนิวไฮหวังดันโปรเจกต์ทะยาน‘แสนล้าน’ปีหน้า
กางโรดแมป “แสนสิริ” เดินหน้าทุบทุกสถิติรับปัจจัยบวกเศรษฐกิจขยับ ต่างชาติรีเทิร์น เดินหน้าลงทุนเปิดตัว 52 โครงการมูลค่า7.5หมื่นล้านปักหมุด8คอมมูนิตี้แนวราบ 8 โซน กว่า 2 พันไร่ พร้อมรุกเจาะหัวเมืองเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวแย้มปีหน้าหวังโปรเจกต์ทะลุแสนล้าน
บิ๊กคอร์ปอสังหาริมทรัพย์ “แสนสิริ” ชิงเปิดเกมรุกเขย่าตลาดตั้งแต่ต้นปีรับสัญญาณบวกเศรษฐกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่กลับเข้ามานับเป็นโอกาสธุรกิจที่สำคัญ
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น คาดขยายตัว 3.7-4% ในปีนี้ จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยว การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทำให้มีโอกาสทางธุรกิจ แม้จะมีปัจจัยลบภายนอกประเทศ อาทิ ความไม่แน่นอนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และบางประเทศอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม
ทั้งนี้ แสนสิริ มีความมั่นใจที่จะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในปี 2566 มุ่งพัฒนาธุรกิจ สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่การให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต
โดยวางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท นับเป็นการทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แบ่งเป็น 30 โครงการแนวราบ และ 22 โครงการคอนโดมิเนียม ตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิ ที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท 38 ปี
ลุยบ้านเดี่ยวลักชัวรี‘รับเงินสด’30%
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ กล่าวต่อว่า แสนสิริวาง 3 กลยุทธ์เคลื่อนธุรกิจโตยั่งยืน เริ่มจากกลยุทธ์แรกรุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ที่สอง การขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการมากว่า 10 ปีแล้ว และยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในการทำตลาดต่างประเทศหลังตลาดท่องเที่ยวเริ่มเปิด กลยุทธ์ที่สาม มุ่งเน้นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสังคม
แสนสิริ ขับเคลื่อนธุรกิจผ่านเครื่องยนต์ที่มีอยู่อย่างเต็มสูบ ด้วยการขยาย 52 โครงการ มูลค่ารวม 75,000 ล้านบาท นับเป็นการเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เติบโตขึ้นจากปีก่อน 75% และโตขึ้นจากช่วงเกิดโควิดถึง 1,000% หรือ 10 เท่าตัว ครอบคลุมทุกโปรดักต์ ทุกระดับราคา ตั้งแต่ 9 แสนบาท จนถึง 100 ล้านบาท ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทุกเซ็กเมนต์ราคา เพื่อรองรับทุกความต้องการ และครอบคลุมทุกทำเล เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์
โดยเฉพาะแนวราบ วางแผนเปิดตัว 30 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,700 ล้านบาท ถือเป็นการรุกตลาดบ้านจริงจังในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ที่มีอัตราการเติบโต 50% เมื่อเทียบการเปิดตัวปีที่ผ่านมา ซึ่งเซ็กเมนต์พรีเมียม และมีเดียมลักชัวรี เป็นตลาดใหญ่ของแสนสิริ สัดส่วน 4 ใน 5
“เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ทำให้เราเปิดโครงการมากขึ้น เฉลี่ยแทบทุกสัปดาห์ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ภายนโยบายสปีดทูมาร์เก็ต ไฮไลต์โครงการแนวราบปีนี้ เน้นบ้านเดี่ยวระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ประมาณ 30% ซื้อเงินสดหรือหากกู้สินเชื่อธนาคารก็จะกู้ผ่าน”
สำหรับโครงการที่เปิดตัวในปีนี้ ทั้งแบรนด์นาราสิริ พหล-วัชรพล, บูก้าน เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ 3 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา, พัฒนาการ และพระราม 9-เหม่งจ๋าย แบรนด์ “เศรษฐสิริ” 10 โครงการ ราคา 12-25 ล้านบาท ทำเลแรก เศรษฐสิริ ดอนเมือง เป็นต้น
เปิด9แบรนด์ใหม่ขยายฐานลูกค้า
พร้อมกันนี้ จะเปิดตัว 9 แบรนด์ใหม่จากแสนสิริ ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ เพื่อขยายแต่ละพอร์ตให้แข็งแกร่งรองรับทุกความต้องการในทุกระดับราคามากยิ่งขึ้น ตั้งแต่แบรนด์ที่อยู่ใน Sansiri Luxury Collection ที่จะขยายพอร์ตลักชัวรี เซ็กเมนต์ของแสนสิริให้เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ได้แก่ นัมเบอร์นายทีน (No.19) และ สิริณสิริ แบรนด์ใหม่ระดับพรีเมียมเซ็กเมนต์ ได้แก่ ณริณสิริ และออมเบร รวมทั้งแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ ได้แก่ ฮับ (HUB) และ กาบานาส (Cabanas) ทำเลหัวหิน จะทยอยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ต่างๆ ตอกย้ำ Forward Thinking Brand และความเป็น First Mover ของแสนสิริ
ขณะเดียวกัน จะเปิดตัวคอนโดมิเนียม 22 โครงการใหม่ มูลค่า 24,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 151% ไฮไลต์ ได้แก่ การเปิดตัวคอนโดมิเนียม New Luxury ในทำเลศักยภาพ อาทิ อารีย์ และ ราชเทวี การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่เป็น One of a kind Project หรือแบรนด์ใหม่ที่มีความโดดเด่นบนโลเคชั่นเดียว อาทิ กาบานาส หัวหิน และ อีก 2 แบรนด์คอนโดมิเนียมไลฟ์สไตล์ย่านสุขุมวิท นอกจากนี้จะมีการรีเฟรชแบรนด์ “ดีคอนโด” ในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงง่าย
ผุดคอมมูนิตี้แนวราบ8โซนรับดีมานด์
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ กล่าวเสริมว่า จะมีการพัฒนาคอมมูนิตี้แนวราบ 8 โซน รวมประมาณ 2,000 ไร่ แบ่งเป็น โซนกรุงเทพกรีฑา 500 ไร่ ซึ่งในไตรมาสแรกนี้เปิดตัว บูก้าน โซนบางพู 400 ไร่ ปัจจุบันมีอยู่ 3 โครงการ โซนกรุงเทพฯ ปทุมธานี ปัจจุบันเปิดขาย 2-3 โครงการ โซนราชพฤกษ์-346 เปิดขายอยู่ 2 โครงการ โซนตรงข้ามเซ็นทรัลเวสต์เกตจะเปิด 2 โครงการในปีนี้ โซนประชาอุทิศ 90 จะเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ โซนพระรามสอง วงแหวน และโซนบางนา กม. 26 ย่านบางบ่อ เพื่อต่อยอดการพัฒนา “สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการโดยมี T77 เป็นต้นแบบ
“แต่ละโซนเป็นคอมมูนิตี้ขนาด 400-500 ไร่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเสริมให้ลูกบ้านไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ ขนาดเล็ก เป็นจุดเด่นสร้างความได้เปรียบให้แสนสิริ ซึ่งมีที่ดินพร้อมรองรับการพัฒนาโครงการบ้านในทุกเซ็กเมนต์ กระจายไปในแต่ละพื้นที่”
โดยภาพรวมโครงการปีนี้เน้นลักชัวรี 70% ที่เหลือเป็นระดับกลาง ล่าง และคาดว่าปีหน้ามูลค่าโครงการอาจทะลุแสนล้านบาท หากสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังรุกตลาดต่างจังหวัดเมืองท่องเที่ยว หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น และชลบุรี ปีนี้จะเปิดตัว 12 โครงการในต่างจังหวัด มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท
รุกตลาดต่างชาติรับกำลังซื้อ
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่สำคัญเวลานี้ คือ “การกลับมาของตลาดต่างชาติ” โดยวางเป้าหมายยอดขายและยอดโอนตลาดต่างชาติปีนี้ไว้กว่า 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากปีก่อน ที่มียอดขายจากตลาดต่างชาติ 7,800 ล้านบาท ตอกย้ำเบอร์หนึ่งแบรนด์อสังหาฯ ไทยในใจตลาดต่างชาติ ที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้บุกเบิกการขายอสังหาฯ ในต่างประเทศรายแรกของไทยมากว่า 10 ปี ส่งผลให้ได้รับความเชื่อมั่นในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
สำหรับ กลยุทธ์การรุกตลาดต่างชาติในปีนี้มุ่งประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม (CLMV) ขยายตลาดกว้างขวางขึ้นจาก จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และรัสเซีย ซึ่งแสนสิริมีฐานลูกค้าต่างชาติในกลุ่มนี้อยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ แสนสิริ มุ่งเดินหน้าพันธกิจสีเขียว โดยวางเป้าหมายเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกของไทยที่เป็น Net-Zero หรือ องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี 2566 แสนสิริเน้นพัฒนา “Low Energy Community Model” ผ่านโครงการต้นแบบ “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา”