ส.รับสร้างบ้านชงขึ้นทะเบียนแรงงานในปท.-ขออนุญาตก่อสร้างออนไลน์
โอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เดินหน้านโยบายเร่งด่วน รับมือต้นทุนราคาก่อสร้างพุ่ง ชง 2 วาระด่วน ลดปัญหาขาดแคลนแรงงานในธุรกิจรับสร้างบ้านชง ก.แรงงานขึ้นทะเบียนแรงงานในประเทศพร้อมขออนุญาตก่อสร้างออนไลน์หวังลดข้อจำกัด
นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยว่า หลังรับตำแหน่ง นายกสมาคมฯ มีวาระ 3 ปี (2566-2568) เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
1.การยกระดับมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับ และน่าเชื่อถือในระดับประเทศ มุ่งตอกย้ำ และสร้างความเชื่อมั่นอย่างสูงสุด เพื่อให้สมาคมฯ เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค รวมทั้งมุ่งสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพสมาชิกให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนสมาคมฯ สู่การเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ
2.กลยุทธ์เดินหน้าสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ให้ครบทุกมิติและทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดของสมาชิก และกระตุ้นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของสมาคมฯ ให้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น
3. การขยายฐานความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ และเอกชน และการขยายฐานบริษัทสมาชิกให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสมาคมฯ ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
โดยในปี 2565 ธุรกิจรับสร้างบ้าน มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 12,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 9% สะท้อนถึงความต้องการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยของผู้บริโภคในตลาดยังคงมีจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าตลาดรับสร้างบ้านในปี 2566 ยังมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภครับรู้ และเชื่อมั่นในบริการของบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น โดยคาดมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านจะแตะระดับ 13,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2565
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ที่ท้าทายรอบด้านในปัจจุบันทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ภาวะดอกเบี้ยและต้นทุนขาขึ้น รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญสำหรับการสร้างบ้าน ส่งผลค่อนข้างมากต่อราคาบ้านทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต โดยทางสมาคม ได้รวบรวมข้อจำกัด พร้อมวางแนวทางรับมือและกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตของตลาดรับสร้างบ้านไว้ ดังนี้
ปัญหาของต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ต้นทุนในการก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ยังแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นนี้อยู่ หากปัญหานี้ยังไม่คลี่คลายอาจจะนำไปสู่การปรับขึ้นราคาบ้านในที่สุด โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นราคาบ้านในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ประมาณ 5-10%
อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือ การขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้เกิดความต้องการแรงงานเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในภาคก่อสร้างอย่างหนัก เนื่องจากแรงงานที่มีอยู่ก่อนหน้านี้บางส่วนเปลี่ยนอาชีพ และบางส่วนเข้าไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่น เช่น ภาคบริการ การท่องเที่ยว เป็นต้น ทำให้ปัจจุบันธุรกิจรับสร้างบ้านขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก
ซึ่งทางสมาคมฯ มีข้อมูลว่า แรงงานตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ที่หนังสือเดินทาง (Passport) หมดอายุ และวีซ่า (VISA) สิ้นสุด มีแรงงานจำนวนมากที่ไม่ได้ไปดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ทำให้แรงงานเหล่านี้กลายเป็นแรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางสมาคมฯ ขอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานในประเทศอีกรอบ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน
รวมถึงข้อจำกัดของการทำธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่มาจากขั้นตอนการขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐยังคงมีความซับซ้อน นายโอฬาร กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่การหาแนวทางรับมือให้ก้าวข้ามภาวะวิกฤติต่างๆ ไปให้ได้
โดยสมาคมฯ ได้หารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการขออนุญาตก่อสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อลดขั้นตอนและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน รวมถึงเป็นการสร้างความโปร่งใสในการทำงานระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน
“ในเบื้องต้นทาง กทม. จะอนุญาตให้บ้านไม่เกิน 3 ชั้น และขนาดไม่เกิน 300 ตารางเมตร สามารถยื่นก่อสร้างผ่านระบบออนไลน์ หากผลตอบรับดีเตรียมขยายพื้นที่การก่อสร้างอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมฯ ยังได้เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ กทม. เปิดสายตรง เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างด้วย” นายโอฬารกล่าว
ในส่วนของกลยุทธ์เพื่อเร่งขยายการเติบโตของธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ นายโอฬาร กล่าวว่า ยังคงเดินหน้ากระตุ้นกำลังซื้อผ่านการจัดงานใหญ่ “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023” ที่ยังคงมีส่วนลดและสิทธิพิเศษดีๆ มากมาย เตรียมมอบให้ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน ไม่ควรพลาดงานในครั้งนี้
ด้านนายปริญญา เอี่ยมประดิษฐ์ภัณ อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ได้เตรียมกระตุ้นกำลังซื้อผ่านการจัดงานแสดงสินค้า “งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สร้างบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ” ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ ที่จะมานำเสนอบริการแบบครบวงจร พร้อมนำเสนอแบบบ้านมากกว่า 1,000 แบบ พร้อมทั้งโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย โดยในปีนี้มั่นใจว่ายอดจองบ้านภายในงานจะใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ประมาณ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 12,000 ราย
สำหรับงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8-12 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 เป็นการจัดงานปีที่ 19 ซึ่งในทุกๆ ปี จะได้รับการตอบรับจากผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านที่จะเข้ามาชมงาน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่สนใจศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบบบ้านและวัสดุก่อสร้างมาร่วมชมงาน โดยในงานนี้มีบริษัทรับสร้างบ้าน และบริษัทวัสดุก่อสร้างเข้าร่วมออกงานกว่า 40 บริษัท
นอกจากโปรโมชันสุดพิเศษจากบริษัทที่มาร่วมออกงาน ยังมีสินเชื่อพิเศษจากสถาบันการเงิน หากลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้า ยังได้รับแบบบ้านใหม่พร้อมแปลนในรูปแบบ e-book, คูปองส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท และเมื่อจองปลูกสร้างบ้านภายในงานลุ้นรับรางวัลทองคำแท่งมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์