คอนโดเชียงใหม่ฟื้นรับดีมานด์จีนรีเทิร์น
คอนโดเชียงใหม่ฟื้นรับดีมานด์จีนรีเทิร์น “ อรสิรินโฮลดิ้ง” ประกาศเดินหน้าลงทุนกว่า 5,000 ล้านผุด10 โครงการ "คอนโดมิเนียม-บ้าน"รองรับกำลังซื้อกลุ่มลูกค้าคนจีนทะลักเข้ามาหลังเปิดประเทศล่วงหน้า2 ปี
"ปรีดิกร บูรณุปกรณ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิรินโฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า หลังจากประเทศจีนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ปรากฏว่ายอดจองห้องพักจากคนจีนของโรงแรมในเครืออรสิรินโฮลดิ้งพุ่งขึ้นถึง 90% ทำให้อัตราการเข้าพักในโรงแรมเพิ่มขึ้น 70% จากปกติอยู่ที่ 40% นอกจากนี้นังมีกลุ่มลูกค้าจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้เชื่อมั่นว่าตลาดอสังหาฯในเชียงใหม่กลับมา โดยเฉพาะคอนโดจะกลับมาคึกคักอีกหลังสังเกตได้จากยอดจองและยอดขายคอนโดของบริษัทในส่วนของโควตาต่างชาติเต็มทุกโครงการ
"หลังโควิด-19 ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เชียงใหม่ดีขึ้นทั้งกลุ่มคอนโดและโครงการแนวราบ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯมีความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในเชียงใหม่มากขึ้นหลังจากที่มีการคุยกับตัวแทนขายต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่ยืนยันว่าดีมานด์ที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ยังคงเป็นที่ต้องการชาวต่างชาติทั้งจากยุโรป และเอเชีย โดยเฉพาะหลังการเปิดประเทศของจีน "
ปรีดิกร กล่าวว่า จากทิศทางดังกล่าวในฐานะดีเวลลอปเปอร์ท้องถิ่นทำให้บริษัทเดินหน้าลงทุนกว่า5,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการใหม่จำนวน10 โครงการแบ่งเป็นคอนโด 5 โครงการและแนวราบ5 โครงการในช่วง 2 ปีต่อจากนี้เพื่อรองรับดีมานด์ที่กำลังจะเข้ามาอย่างต่อเนื่องสะท้อนอนาคตที่สดในของตลาดอสังหาฯในจ.เชียงใหม่ต่อจากนี้หลังจากชะลอตัวมา2-3ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามแนวโน้มการแข่งขันตลาดรุนแรงมากขึ้นจากการเข้ามาของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่จากส่วนกลางที่เห็นการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯในเชียงใหม่ ในฐานะเป็นบริษัทที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีกังวลต่อเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากแบรนด์สินค้าของบริษัทเป็นที่รู้จักทั้งในเรื่องคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย รวมถึงการที่บริษัทมีฐานลูกค้าในพื้นที่และความเชี่ยวชาญตลาดในพื้นที่มากกว่าจึงมั่นใจว่าสามารถแข่งขันกับดีเวลลอปปเปอร์รายใหญ่ที่จะเข้าลงทุนได้
ขณะเดียวกัน "สรนันท์ เศรษฐี " นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ ระบุว่า การเข้ามาร่วมทุนของดีเวลลอปเปอร์ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนอสังหาฯในเชียงใหม่นั้น อาจเข้ามาถือหุ้น 20-30% แล้วพัฒนาโครงการขายไปตามกฏหมาย ซึ่งตามกฏหมายยังไม่สามารถซื้อขายบ้านได้ 49%เหมือนกับคอนโดมิเนียม หากจะมีการซื้อขายจะดำเนินการทุกอย่างตามฏหมาย ถ้าผู้รับโอนเป็นบริษัท 51% ต้องเป็นคนไทย
โดยปัจจุบันโครงการแนวราบส่วนใหญ่กำลังซื้อหลักเป็นคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เป็นหลัก รองลงมาเป็นคนกรุงเทพฯที่เข้ามาซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง แนวทางการปรับตัวของคนพัฒนาโครงการบ้าน อาจต้องปรับฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยยุคนี้ที่ต้องการพื้นที่ในการทำงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการคอนโดมีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน