มารวยหนียอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่งหันปั้น3โปรเจกต์บ้านหรูเจาะเศรษฐี
‘มารวย’หนียอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่ง หันปั้น3โปรเจกต์บ้านหรูเจาะเศรษฐี ลุยทำเลสมุทรปราการรับอานิสงส์จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้กรุงเทพฯ เป็ประตูสู่อีอีซี ขณะที่ฉะเชิงเทราอาศัยจุดแข็งแบรนด์ที่มากว่า 33 ปีคาดปีนี้ทำลายสถิติมีรายได้ทะลุ1,000 ล้าน
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2566 จะดีขึ้นแต่การเลือกตั้งมีผลให้คนอาจชะลอการลงทุน เพื่อรอรัฐบาลใหม่ นโยบายใหม่ และ “โปรเจกต์บ้านหรู” เป็นคำตอบสำหรับดีเวลลอปเปอร์ที่ไม่ต้องการเผชิญปัญหายอดปฏิเสธสินเชื่อที่ยังคงสูงขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป และ บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคตะวันออกภายใต้แบรนด์บ้านมารวย ประเมินว่า ตลาดอสังหาฯ ช่วงต้นปีนี้ชะลอตัว จากดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้อัตราการผ่อนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันหลังเปิดประเทศมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น อาจยังไม่มีอารมณ์ซื้อที่อยู่อาศัย
"ภาพรวมน่าจะดีขึ้น แต่ต้องใช้เวลา และปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่ออสังหาฯ คือการเลือกตั้ง คนอาจชะลอการลงทุน เพราะทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจนต้องรอรัฐบาลใหม่ นโยบายการอัดฉีดยังไม่เต็มที่ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งปัจจัยการเลือกตั้งในระยะสั้นเป็นบวก กลุ่มคนรากหญ้ามีเม็ดเงินเข้าไปในท้องถิ่นมากขึ้นจากป้ายหาเสียง ฯลฯ สร้างสีสัน ความคึกคัก”
สืบวงษ์ มองว่า ปีนี้อสังหาฯ จะสามารถผ่านไปได้ แม้มีปัจจัยลบจากต่างประเทศ อาทิ การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ขณะที่ยุโรปดอกเบี้ยแพง น้ำมันแพง ทำให้คนเดือนร้อน เริ่มประท้วงอาจทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปมาเมืองไทยน้อยลง และมีมาตรการต่างๆ ออกมา เช่น มาตรการคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกีดกันทางการค้าที่ส่งผลกระทบการส่งออกและการจับจ่ายใช้สอยในยุโรปน้อยลง ขณะที่สงครามรัสเซีย ยูเครนยังมีความไม่แน่นอน ทำให้ไม่สามารถประเมินเศรษฐกิจทั้งปีได้ ต้องดูกันเป็นรายไตรมาส
สำหรับเมืองไทย หลังผ่านวิกฤติโควิดคนเริ่มมีความหวังมากขึ้นจากสถานการณ์ที่ดีขึ้น ร้านค้าเปิดได้เหมือนเดิม แต่อยากให้สถาบันการเงินช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบในช่วงโควิดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มพนักงาน หรือ คนที่อยู่ในธุรกิจภาคบริการ การท่องเที่ยว ร้านอาหาร ฯลฯ เพราะช่วงนี้หยุดผ่อนไปถูกแบล็คลิสต์ โดยอาจตั้งวงเงินพิเศษ 5,000-10,000 ล้านบาทเพื่อลดความเสี่ยงให้คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่ไม่สามารถกู้ได้ให้กลับมาซื้อบ้านได้ในบ้านระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ให้ธนาคารรัฐนำร่อง
อย่างไรก็ดี ปีนี้ต้องระวังการเปิดตัวโครงการ จึงหันไปเปิดตัวโครงการบ้านที่ราคาแพงขึ้นที่กลุ่มลูกค้าไม่มีปัญหาเรื่องการกู้ ดังนั้น บริษัทจึงเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีระดับราคาสูงขึ้นกว่าเดิม เป็นบ้านหรูแบรนด์แฮตตัน สไตล์อังกฤษ มูลค่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 125 ยูนิต ระดับราคา 6-10 ล้านบาท ใน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นครั้งแรก จับกลุ่มเศรษฐีในจังหวัด เป็นบ้านขนาดใหญ่ 250-360 ตารางวา ถือว่าใหญ่สุดในตลาด ส่วนที่ดินขนาดเล็กสุดอยู่ที่ 70-103 ตารางวา
“แฮตตัน 6-10 ล้านบาทเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ และทำให้เรามีโครงการบ้านที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับล่าง กลาง บน”
จุดแข็งของ มารวย เรียลเอสเตท คือการเป็นผู้นำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในจังหวัดฉะเชิงเทรามากว่า 33 ปี เป็นที่รู้จักคนในพื้นที่ มีฐานลูกค้าที่ชื่นชอบคุณภาพและการบริการที่ไม่แพ้แบรนด์จากกรุงเทพฯ ที่เข้ามาทำตลาดฉะเชิงเทรา แต่ต้องยอมรับว่าการแข่งขันในฉะเชิงเทราสูง เพราะมีอัตราการดูดซับค่อนข้างดี แต่ตลาดมีขนาดเล็ก 1,000 ยูนิต ต่อปี ฉะนั้นการที่เข้ามาเปิดโครงการจำนวนมากอาจทำให้ซัพพลายล้นตลาดได้ในอนาคต ในฐานะเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นเราต้องปรับตัวให้สามารถแข่งขั้นได้ทั้งดีไซน์ ฟังก์ชั่น ขนาดพื้นที่ใช้สอย และราคา
ถัดมาจะเป็น โครงการ ทรอฟี มอเตอร์เวย์ ทาวน์โฮมของคนรุ่นใหม่ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ขนาด 30 ไร่ และโครงการ เดอะ เทรเชอร์ โกลด์เป็นบ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ สมุทรปราการ กม.34 ขนาด 30 ไร่ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ของ แพทโก้ บริษัทในเครือ คาดเปิดตัวไตรมาส 3 นี้
"สมุทรปราการได้รับอานิสงส์จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้กรุงเทพฯ เป็นเสมือนประตูสู่อีอีซี ทำให้เกิดโครงการใหม่เปิดจำนวนมาก เพราะเห็นศักยภาพและดีมานด์ในพื้นที่ โดยเฉพาะบางนา ตราด ตอนต้นระดับราคาบ้านส่วนใหญ่ 50-100 ล้านบาท"
คาดปีนี้จะมีรายได้อสังหาฯ ในเครือประมาณ 1,000 ล้านบาททำลายสถิติ จากปีก่อน 600-700 ล้านบาท