ผู้ค้าวัสดุจีนบุกงานสถาปนิก'66ขนสินค้านวัตกรรมตีตลาดไทย

นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ออแกไนเซอร์จัดงานสถาปนิก'66 เผยว่า สัดส่วนผู้ค้าวัสดุจีนนำสินค้านวัตกรรรมและเทคโนโลยีเข้ามานำเสนอแก่ผู้ที่เข้าชมงานสูงสุดเมื่อเทียบกับผู้ค้าวัสดุชาติอื่น โดยภาพรวมสัดส่วนต่างชาติที่เข้ามาแสดงสินค้า22% เป็นผู้ค้าวัสดุจากจีน20% ถือเป็นครั้งแรกในรอบ3ปี หรือเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19ในปี2562 ที่ผู้ค้าวัสดุจากจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก

"ผู้ค้าวัสดุจากจีนมีการพัฒนารูปแบบการนำเสนอสินค้าในงานแสดงสินค้าจากเดิมเป็นบูธขนาดเล็ก เปลี่ยนมาเป็นบูธขนาดใหญ่ มีรูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัยขึ้นและมีการนำสินค้าแบรนด์ดังจากประเทศจีนเข้ามาจัดแสดง ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง ไม้ ชั้นนำ ถือเป็นพัฒนาการที่ดี"

นายศุภแมน   กล่าวว่า จากเดิมสินค้าของที่นำมาไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กระเบื้อง เซรามิกส์ เน้นราคาถูกเป็นหลักแต่ปัจจุบันจะเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีไม่แพ้ผลิตภัฒน์ประเทศอื่นๆ ราคาขยับขึ้นบ้างแต่ยังคงถูกกว่าประเทศอื่นๆเนื่องจากโรงงานผลิตจีนมีEconomies of Scaleทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้แข่งขันกับคู่แข่งได้ง่าย ซึ่งยังคงเป็นจุดแข็งของผู้ค้าวัสดุจากจีน ที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย

"จุดประสงค์การเข้ามาเน้นหาตัวแทนจำหน่ายนำไปขายต่อเป็นหลัก รวมทั้งการหาลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ในรูปแบบ Business to Business หรือ ธุรกิจ B2B ซึ่งจากกลยุทธ์ราคาที่สามารถทำถูกได้ถูกกว่าคู่แข่ง ถือเป็นข้อได้เปรียบและด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่เพิ่งฟื้นตัว การเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ง่าย กลายเป็นข้อได้เปรียบของผู้ค้าจีน เพราะ ราคา เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้า เพราะคุณภาพสินค้าไม่ได้แย่"
 

การจัดงานสถาปนิก'66 ครั้งนี้มีความพิเศษหลังจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 โดยมี 850 บริษัท นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการด้านการออกแบบและก่อสร้างจากภายในประเทศและต่างประเทศมาจัดแสดงในครั้งแรกบนพื้นที่ของการจัดงานถึง 75,000 ตร.ม.ที่สำคัญคือ ได้รับความสนใจจากต่างชาติเข้าร่วมแสดงสินค้ามากขึ้น 7 เท่า หรือเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือประมาณ 400 บริษัท โดยมีผู้ประกอบการจากออสเตรเลีย จีน ฟินแลนด์ ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา

สำหรับผู้ชมงานที่ลงทะเบียนมากถึง 4 เท่าตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงก่อนเกิดโควิด-19 และคาดว่าตลอดการจัดงานจะมีเข้ามาชมงานไม่ต่ำกว่า 3.2 แสนคน ที่สำคัญ การจัดงานครั้งนี้จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดวัสดุก่อสร้างมูลค่าไม่ต่ำกว่า 22,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า10%