อสังหาฯแก้เกมรีเจ็กต์พุ่งแค่ยืดเวลาไม่พอต้องปล่อยกู้ผ่านNon-bank

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากวิกฤตโควิดที่ลากยาวมากว่า3ปีส่งผลทำให้คนไทยต้องประสบปัญหาทางการเงินและภาระสินเชื่อที่อยู่อาศัย ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่รุมเร้า ภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น เงินเก็บเงินออมลดลงทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคลดลง!

ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย0.25% ต่อปี จากเดิม 1.50% เป็น 1.75% ต่อปี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยลบที่มีผลต่อภาคอสังหาฯ ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ขณะที่ราคาบ้านเพิ่มสวนทางกันระหว่างดอกเบี้ยขึ้นกับความสามารถในการซื้อ ทำให้ผู้บริโภคขอสินเชื่อยากขึ้น ดังนั้น ยอดปฏิเสธสินเชื่อก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับหนี้ครัวเรือนอยู่ในเกณฑ์ที่สูง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาฯปีนี้แนวโน้มไม่สดใสอย่างที่คาดการณ์

"จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้สถาบันการเงินมีมาตรการที่คุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้นจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ โครงการในบางพื้นที่มียอดการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึงกว่า 50% โดยเฉพาะโครงการที่มีระดับราคา 1-2 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาทซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ประจำ โดยคนกลุ่มนี้จะมีภาระหนี้สินจากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจที่สะสมมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาวินัยทางการเงินของบุคคลทั้งหมด"

เกษรา   กล่าวว่า เสนาฯ ได้มองเห็นปัญหาของลูกค้าที่อยากได้บ้านแต่ไม่มีเงินเก็บออม ไม่มีการวางแผนการเงิน บางคนเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนเพื่อกู้ โดยเฉพาะเจน Z เสนาจึงได้หาแนวทางแก้ปัญหาลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ด้วยการเปิดธุรกิจใหม่ “เงินสดใจดี”เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองแต่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือติดปัญหาต่าง ๆ 

โดยมีทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีแนวโน้มอาจกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่าน มาใช้บริการทางเลือกได้ คือ 1.บริการสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อสามารถเข้าอยู่ในบ้าน/คอนโดฯได้ทันที จากนั้นทยอยผ่อนชำระเงินกู้ซึ่งจะหักเงินต้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เงินต้นลดมาอยู่ในระดับที่ลูกค้าน่าจะสามารถกู้สินเชื่อบ้านได้ จะมีการส่งต่อลูกค้าให้กู้สินเชื่อบ้านจากธนาคาร 2.สินเชื่อเพื่อชำระค่าทำสัญญา 3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อลดภาระดอกเบี้ย โดยบริษัทได้เตรียมจัดแคมเปญพิเศษ สำหรับแบรนด์ เสนาคิทท์ 12 โครงการนำร่อง ราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้านบาท
 

ณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด   กล่าวว่า  ปัจจุบันความสามารถของลูกค้าในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยระดับราคา2 -3ล้านบาทเป็นกลุ่มคนที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง จากประสบการณ์ในปี2565ที่ผ่านมาลูกค้าในโครงการทาวน์โฮมราคา 2-3 ล้านบาทเป็นกลุ่มที่กู้ไม่ผ่าน40%  เนื่องจากประสบปัญหาในเรื่องภาระหนี้สินในช่วงโควิด -19 ทำให้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินไม่ผ่านทำให้ยอดขายในปี2565 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

จากปัญหาดังกล่าว ทางบริษัทได้ เจรจากับพันธมิตร ผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงินหรือNon-bank เข้ามาช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโด  โดยบริษัทเข้าไปค้ำประกันให้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนเพื่อให้สามารถขอสินเชื่อกับธนาคารและโอนกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยได้ โดยมูลค่าหนี้จะไม่เกิน 10% ของราคาบ้านแต่ลูกค้าจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติในการชำระหลังจากโอนแล้ว

 นอกจากจากนี้ ทางเรียลแอสเสทมรแนวคิดที่จะตั้งกองทุน ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่กู้ธนาคารไม่ผ่านด้วย โดยเปลี่ยนให้ลูกค้าทำสัญญาเช่าซื้อกับกองทุนแทน เพื่อเช่าอยู่ไปก่อนได้ระหว่างปลดหนี้ส่วนอื่น แล้วค่อยเปลี่ยนไปกู้สินเชื่อบ้านตามปกติในภายหลัง ซึ่งคล้ายกับที่เสนาฯ เปิดธุรกิจใหม่ “เงินสดใจดี”เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองแต่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือติดปัญหาต่าง ๆ นั่นเอง