คอนโดพึ่งกำลังซื้อต่างชาติพยุงตลาดจีนแชมป์รัสเซีย-เมียนมา-อินเดียมาแรง

คอนโดพึ่งกำลังซื้อต่างชาติพยุงตลาดจีนแชมป์รัสเซีย-เมียนมา-อินเดียมาแรง

คอนโดหวังพึ่งกำลังซื้อต่างชาติพยุงตลาด! ‘จีน’แชมป์ซื้อสูงสุด‘รัสเซีย-เมียนมา-อินเดีย’มาแรง ชาวต่างชาตินิยมซื้อคอนโดหรูกลางเมือง คนจีนนิยมบ้านโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก คนเมียนมาซื้อคอนโดระดับราคาตั้งแต่ 5 –100ล้าน

ข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส1ปี 2566ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่าการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ มีจำนวน 3,775 หน่วย เพิ่มขึ้น 79.2% คิดเป็นมูลค่า 17,128 ล้านบาท ขยายตัว 67.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประเทศจีนครองแชมป์การโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด 1,747 หน่วย คิดเป็น 46% ของจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติทั้งหมด มีมูลค่า 8,191 ล้านบาท หรือ 48% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์คนต่างชาติทั้งหมด

แต่เมื่อเทียบรายหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดกลับพบว่า สัดส่วนการซื้อคอนโดของคนจีนลดลง ดังนี้

ปี 2565 จำนวน 5,707 หน่วย คิดเป็น 49% มีมูลค่า 29,038 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดต่างชาติ

ปี 2564 จำนวน 4,867 หน่วย คิดเป็น 59% มีมูลค่า 22,874 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดต่างชาติ

ปี 2563 จำนวน 5,257 หน่วย คิดเป็น 63% มีมูลค่า 22,889 ล้านบาท คิดเป็น 61% ของยอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดต่างชาติ
 

คอนโดพึ่งกำลังซื้อต่างชาติพยุงตลาดจีนแชมป์รัสเซีย-เมียนมา-อินเดียมาแรง นอกจากนี้ ยังพบว่า 3 ประเทศรัสเซีย อินเดีย และเมียนมามีสัดส่วนการซื้อคอนโดไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ในเชิงมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ ไตรมาส 1/2566 รัสเซียขึ้นเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน 8% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,364 ล้านบาท ขยับจากปี 2563 ที่มีสัดส่วน 3% มูลค่า 1,141 ล้านบาท ราคาซื้อเฉลี่ย 3.5 ล้านบาท/หน่วย 

ขณะที่เมียนมา มียอดการโอนเชิงมูลค่าอยู่ลำดับ 7 มูลค่า497 ล้านบาท แต่ราคาซื้อคอนโดต่อหน่วยสูงสุด 6.5 ล้านบาท/หน่วย ส่วนอินเดีย เชิงมูลค่าอยู่ลำดับ 10 มูลค่า 292 ล้านบาท

เมื่อเจาะลึกรายจังหวัด พื้นที่ที่มีชาวต่างชาติซื้อคอนโดมากที่สุดกระจายตัวในจังหวัดชลบุรี กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง ส่วนใหญ่หัวเมืองท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาฯ ล้อไปกับการขยายตัวของการท่องเที่ยว หากภาครัฐดึงดูดต่างชาติเข้ามาอยู่เมืองไทยระยะยาวได้ จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโด ในช่วงที่กำลังซื้อในประเทศหดตัว!

คอนโดพึ่งกำลังซื้อต่างชาติพยุงตลาดจีนแชมป์รัสเซีย-เมียนมา-อินเดียมาแรง
 

สอดคล้องกับ อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ระบุว่า ปี 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทย 11.2 ล้านคน มาจากโซนเอเชีย 64% ยุโรป 23% อเมริกาเหนือ 5% ตามมาด้วยตะวันออกกลาง โอเชียเนีย หรือกลุ่มประเทศและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และแอฟริกา 

“สัญญาณการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีนัยเชิงบวกและสอดคล้องกับดีมานด์ของชาวต่างชาติในการซื้อที่พักอาศัยในไทย” 

เอเชียชอบคอนโด ยุโรปนิยมบ้านพักตากอากาศ

จากการวิเคราะห์โครงการที่ซีบีอาร์อีในฐานะตัวแทนบริหารการตลาดและการขายส่วนใหญ่เป็นตลาดระดับลักชัวรี พบว่าผู้สนใจซื้อโครงการที่พักอาศัยตั้งแต่ปี 2565 ถึงต้นปี 2566 เป็นคนไทย 89% ชาวต่างชาติ 11% โดยลูกค้าชาวต่างชาติที่มองหาคอนโดและบ้านส่วนใหญ่มาจากเอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เมียนมา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านพักตากอากาศส่วนใหญ่มาจากยุโรป ได้แก่ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี

เมื่อเปรียบเทียบยอดขายโครงการที่พักอาศัยของซีบีอาร์อีในปี 2565 กับปี 2564 ยังพบว่า ลูกค้าชาวต่างชาติซื้อคอนโดเพิ่มขึ้น 383% และซื้อบ้านเพิ่มขึ้น 233% โดยชาวต่างชาติที่ซื้อบ้านส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว ซีบีอาร์อียังพบว่าลูกค้าชาวต่างชาติกลับมาสนใจซื้อวิลล่าตากอากาศอีกครั้งหลังจากที่หายไปก่อนหน้านี้

ต่างชาติซื้อคอนโดหรูกลางใจเมืองอยู่เอง

เมื่อเจาะลึกถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อชาวต่างชาติ พบว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่มีวงเงินในการซื้อคอนโดที่ระดับราคา 15-30 ล้านบาท ต้องการคอนโดทำเลใจกลางเมือง โดยเฉพาะย่านธุรกิจ สีลม สาทร ลุมพินี สุขุมวิท ปทุมวัน และริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองถึง 87%

สำหรับโครงการบ้าน ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่มีงบการซื้อ 51-80 ล้านบาท โดยเฉพาะทำเลกรุงเทพฯ ตะวันออก ใจกลางเมือง และรอบนอกฝั่งตะวันออก โดยซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 85%  สำหรับบ้านพักตากอากาศ นิยมซื้อในราคา 15-30 ล้านบาท สนใจทำเลภูเก็ต และ หัวหิน ส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 71%

จีนนิยมบ้านโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก

จากข้อมูลของซีบีอาร์อีซึ่งเน้นตลาดระดับลักชัวรี “จีน” ยังคงเป็นชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อที่พักอาศัยในไทยสูงสุด ส่วนใหญ่ต้องการซื้อคอนโดหรูขนาด 1-2 ห้องนอน ระดับราคา 15-30 ล้านบาท บนทำเลสีลม สาทร และซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเองเป็นหลัก ส่วนโครงการบ้าน ชาวจีนต้องการซื้อบ้านขนาด 4 ห้องนอน ทำเลกรุงเทพฯ ตะวันออก มีงบประมาณในการซื้อตั้งแต่ 30 ถึงกว่า 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเช่นเดียวกัน

เมียนมานิยมคอนโดหรู 5 –100ล้าน

อีกหนึ่งตลาดต่างชาติที่น่าสนใจ คือ ผู้ซื้อชาวเมียนมา ปีที่ผ่านมาหลายรายเข้าทำสัญญาซื้อขายโครงการกับซีบีอาร์อีในระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาท ถึงมากกว่า 100 ล้านบาท เป็นชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในเมียนมา สิงคโปร์ และไทย เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองถึง 91%  นิยมซื้อคอนโดลักชัวรีขนาด 2 ห้องนอน ราคา 15-30 ล้านบาท และมองหาคอนโดบนทำเลลุมพินีและสุขุมวิท สำหรับโครงการบ้านต้องการบ้านขนาด 4 ห้องนอน ในทำเลกรุงเทพฯ ตะวันออกและใจกลางเมือง

ท่องเที่ยวหนุนต่างชาติซื้ออสังหาฯไทย

ประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดวิลล่าภูเก็ตยังคงมีลูกค้าที่เข้ามาลงทุนซื้ออย่างต่อเนื่อง อาทิ รัสเซีย จีน อิตาลี อังกฤษ เยอรมนี ออสเตรเลีย สหรัฐ อินเดีย และไอร์แลนด์ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเองและปล่อยเช่า

“เชื่อว่าตลาดการท่องเที่ยวและตลาดการพักอาศัยแบบลองสเตย์ในปี 2566 จะกลับมาคึกคักยิ่งขึ้นกว่าเดิมในไตรมาส 2-4 ส่งผลบวกต่อเนื่องต่อดีมานด์การซื้อที่พักอาศัยเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองและเพื่อการลงทุน”

คาดว่าความต้องการซื้อที่พักอาศัยจากชาวต่างชาติจะครอบคลุมตลาดหลายระดับ และกระจายไปยังทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดที่เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศชั้นนำ รวมถึงครอบคลุมไปถึงตลาดเช่าอีกด้วย