เพอร์เฟคพลิกกลยุทธ์ครีเอทดีมานด์คอนโดชูรพ.สินแพทย์แม่เหล็กดึงนักลงทุน

วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯปี2567 ยังคงมีความท้าทายจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่มีผลต่อราคาน้ำมัน กระทบต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ค่าขนส่ง อัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการออกหุ้นกู้ เพราะการระดมทุนจากการขายหุ้นกู้ยากขึ้น คนซื้อเกิดความไม่มั่นใจ ขณะเดียวกันธนาคารเข้มงวดกับการให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาโครงการมากขึ้นจึงต้องระมัดระวังสภาพคล่อง ดังนั้นการเปิดโครงการใหม่จึงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะคอนโดใช้เงินลงทุนสูงและระยะเวลาการพัฒนานาน เมื่อเทียบกับโครงการแนวราบ

หากพัฒนาต้องมีจุดขายที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง ยกตัวอย่างล่าสุด เพอร์เฟค ได้ พันธมิตร สินแพทย์ เข้ามาพัฒนาโรงพยาบาลติดกับโครงการคอนโดโลว์ไรส์ ย่านพัฒนาการ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดโครงการแรกในรอบ3 ปี โดยได้มีการรีเฟรชแบรนด์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาซื้อโครงการ ภายใต้แบรนด์ “ไอคอนโด แอคทีฟ” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อยู่มา 13ปี มีจำนวน ทั้งสิ้น 11โครงการ
 

นับเป็นโครงการแรกที่อยู่ทำเลในเมือง เพื่อรองรับกับเรียลดีมานด์บุคคลกรของโรงพยาบาล คนในพื้นที่เพราะเป็นแหล่งรวมของสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล ศูนย์การค้า และแหล่งงาน รวมทั้งกลุ่มนักลงทุน ซื้อเพื่อปล่อยเช่าเศรษฐีต่างชาติที่เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลคล้ายกับที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลโซนสุขุมวิท เพชรบุรี อาทิ รพ.บํารุงราษฎร์ รพ. กรุงเทพ ที่มีกลุ่มลูกค้าจากตะวันออกกลาง เมียนมา ที่เข้ามาพร้อมกับครอบครัวอย่างน้อย 3 เดือน

“กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเช่าส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีที่มีกำลังซื้อ ทำให้กลุ่มคนซื้อเพื่อปล่อยเช่าที่เห็นโอกาสเข้ามาซื้อ ไว้ล่วงหน้า ระหว่างนั้นปล่อยเช่าให้กับคนไทยที่ต้องการอยู่ใกล้เมืองสามารถเดินทางไปพระราม9 เพชรบุรี สุขุมวิทได้ ”

สะท้อนว่าโรงพยาบาลเป็น“แม่เหล็ก”ในการช่วย“ครีเอท”ดีมานด์คอนโดได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กับโรงเรียน มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า ถือเป็นโมเดลแรกที่พัฒนาโครงการในเมืองที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ร่วมกับพันธมิตร โดยก่อนหน้านี้ระหว่างที่เพอร์เฟค พัฒนาโครงการคอนโดในทำเลนี้ทาง สินแพทย์ อยู่ระหว่างการหาที่ดินในการพัฒนาโรงพยาบาล จึงตอบโจทย์เพอร์เฟคที่ต้องการหา “แม่เหล็ก” ที่ดึงกลุ่มลูกค้าเข้ามาซื้อ โดยเฉพาะนักลงทุน จึงช่วยรวบรวมที่ดินให้ตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา
 

พร้อมกันนี้ได้พัฒนาโครงการ“ไอคอนโด แอคทีฟ” มูลค่า1,000 ล้านบาทบนพื้นที่ 5 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 445 ยูนิต ประกอบด้วยห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยขนาด 24.1 – 30.6 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.27 ล้านบาท และห้องแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยขนาด 45.7 ตร.ม. ราคาเริ่ม 4.66 ล้านบาท โดยห้องชุดส่วนใหญ่เป็นแบบ 1 ห้องนอนที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้รองรับทุกความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย

​วงศกรณ์ ระบุว่า การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นคอนโด หรือบ้าน การมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า หรือโรงพยาบาล จะช่วยให้การขายง่ายขึ้น ยกตัวอย่างโครงการ “ไอคอนโด แอคทีฟ” ปัจจุบันสามารถมียอดขายแล้วถึง 30% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนปาณยา พัฒนาการ เป็นโรงเรียนที่ลูกหลานกลุ่มคนที่มีรายได้สูงเข้ามาเรียน จึงซื้อคอนโดเสมือนเป็นบ้านหลังที่2 ไว้สำหรับมาพักระหว่างรอรับลูกกลับบ้าน และยังติดมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ใกล้สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะมีนวัตกรรมตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ อาทิ ระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศจาก SCG Bi-ion สร้างคุณภาพอากาศที่ดี และมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์รูปแบบใหม่ เช่น จักรยานออกกำลังแบบ Virtual Cycling กระจกออกกำลังกายอัจฉริยะ Fitness Mirror และยังมี Co-Working Space สระว่ายน้ำ และพื้นที่สวนพักผ่อนในบรรยากาศ Active Garden รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยทั้งระบบเข้าออกด้วยการจดจำใบหน้า ระบบสแกนทะเบียนรถเข้าออก เป็นต้น คาดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2567

สิทธิ ภาณุพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท สินแพทย์ จำกัด กล่าวว่า การขยายสาขาถือเป็นนโยบายของกลุ่มสินแพทย์ โดยให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่ตั้งของโรงพยาบาลเป็นอันดับแรก ต้องเป็นทำเลใกล้ชุมชน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพร้อมรับการบริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สำหรับ โรงพยาบาลสินแพทย์ พัฒนาการ ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบและขออนุญาตก่อสร้าง โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 2,500 ล้านบาท อาคารจำนวน 25 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 76,000 ตร.ม. เป็นโรงพยาบาลขนาด 300 เตียง ทั้งนี้ ยังคงมีแนวทางการดำเนินงานที่พร้อมให้การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและมาตรฐานการรักษาเทียบเท่าประเทศตะวันตก โดยมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2570

 “ลูกค้ามีทั้งคนไทยและต่างชาติที่เข้ามารับการรักษาและดูแลสุขภาพ ทั้งตะวันออกกลาง ยุโรป ญี่ปุ่น ที่สนใจเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยมากขึ้น ประกอบย่านนี้เป็นทำเลที่มีศักยภาพ กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง สังเกตจากมีโครงการบ้านราคาแพงตั้งแต่ 50-100 ล้านบาทในย่านนี้ ”