“เอ็มที แอสเสท”ผุดมิกซ์ยูสเสริมแกร่งรีโนเวทมอลล์ย่านคูคต
หลังรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการ วิ่งเชื่อมกรุงเทพฯ และปทุมธานี ทำให้เกิดโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพิ่มขึ้นจึงเป็นโอกาสพัฒนามิกซ์ยูสเพื่อให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยในย่านคูคตที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
วรพจน์ กันตพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มที แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นจังหวะที่เหมาะสมในการขยายการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯบนทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยโครงการแห่งนี้จะถูกพัฒนาให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีความทันสมัย เพื่อเพิ่มความขีดความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ผู้เช่าพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในย่านคูคต โดยการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income)ให้กับบริษัทพร้อมรับมือกับความท้าทายและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
"จากประสบการณ์กว่า 40 ปีในการพัฒนา บริหาร และขายโครงการอสังหาฯมาหลากหลายประเภทในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ได้แก่ เขตดอนเมือง สายไหม บางเขน จังหวัดนนทบุรี ต่อไปถึงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อย่างลำลูกกาและคลองหลวง ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจไปพร้อมกับการสร้างการเติบโตในระยะยาวด้วยการขยายธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ"
การลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยสร้างการเติบโตและกระจายความเสี่ยงให้แก่พอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย มาสู่อสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าจาก70:30 เป็น 60:40 โดยใช้งบการรีโนเวท 100 ล้านบาท เพื่อทำเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ ในชื่อ MT Khu Khot Lifestyle Mall ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน โครงการมิกซ์ยูสที่มีอยู่แล้ว ซึ่งติดถนนลำลูกกา ห่างจากสถานีคูคตเพียง 400 เมตร บนพื้นที่ 20 ไร่
ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ อาคารหนึ่งชั้นที่เป็น Makro Food Service พื้นที่ 4,400 ตร.ม. ส่วนที่สองเป็น Starbucks Drive Thru แห่งแรกบนถนนลำลูกกา ซึ่งทั้ง2ส่วนแรกได้เปิดให้บริการแล้ว และส่วนสุดท้ายเป็นมอลล์ ขนาด 3 ชั้น จำนวน 16 ยูนิต ที่จะเป็น food destination แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านคูคต รวมพื้นที่ขาย 1,600 ตร.ม. ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 70% และได้เปิดขายพื้นที่แล้วตั้งแต่กลางปี2566 ล่าสุดปิดได้แล้ว 40% โดยตั้งเป้าจะปิดการขายได้ทั้งหมดและส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้เช่าได้ในไตรมาสแรกปี2567 พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาส2
วรพจน์ กล่าวว่า ร้านค้าในมอลล์จะเป็นประเภทอาหารและเครื่องดื่ม 12 ยูนิต และให้บริการด้านสุขภาพและความงามอีก 4 ยูนิต โดยมีค่าเช่าเริ่มต้นที่ 500 บาท/ตร.ม. สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีทั้งผู้อาศัยและทำงานในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโครงการครอบคลุมโซนลำลูกกา รังสิต สายไหม ผู้ใช้บริการบีทีเอส สถานีคูคต และอาคารจอดแล้วจร สถานีคูคตและแยก คปอ. ที่มีผู้นำรถยนต์และจักรยานยนต์มาจอดต่อวันกว่า 2,100 คัน รวมถึงข้าราชการจากหน่วยงานราชการต่างๆ และกองทัพอากาศ ผู้ปกครองและนักเรียนจากโรงเรียนโดยรอบ เช่น โรง เรียนผ่องสุวรรณ โรงเรียนสายไหม เป็นต้น ผู้มาใช้บริการและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา ที่อยู่ห่างไปเพียง 400 เมตร
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบกิจการภายในโฮมออฟฟิศ ‘MT ลำลูกกา’ จำนวน 108 ยูนิต ซึ่งอยู่ติดกับ MT Khu Khot Lifestyle Mall และลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจอีกด้วย ที่กล่าวมานี้ยังไม่รวมถึงอานิสงส์จากดีมานด์มหาศาลที่มาจากโครงการขนาดใหญ่ของดีเวลลอปเปอร์บิ๊กแบรนด์ต่างๆ ที่ทยอยเปิดตัวในย่านคูคต
โดยเมื่อโครงการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 3,000 คนในวันธรรมดา และเพิ่มเป็นสองเท่าในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดพิเศษ และสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ (occupancy rate) ได้ไม่ต่ำกว่า 90% อีกทั้งจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนจากงบรีโนเวทที่ลงไปภายในไม่ถึง 3 ปี เนื่องจากที่ตั้งของโครงการฯ เป็นทำเลศักยภาพ
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้จนถึงไตรมาส3 รับรู้รายได้กว่า 160 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากอสังหาฯเพื่อขาย 120 ล้านบาท และอสังหาฯเพื่อเช่า 40 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะทำรายได้รวม 210 ล้านบาท จากการปิดโครงการคอนโดมิเนียม MT Residence คลองหลวง จำนวน 312 ยูนิต ที่มีการโอนไปแล้วมากกว่า 80% รวมกับรายได้ส่วนค่าเช่าจากโครงการต่างๆ ในมือ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่อง
โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะนำโครงการ MT Khu Khot Lifestyle Mall เข้าระดมทุนผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ในอีก 3 ปีหลังเปิดให้บริการในปีหน้า เพื่อนำเงินมาพัฒนาโครงการใหม่ต่อไปในรูปแบบของมิกซ์ยูส เช่นเดียวกันในย่านปทุมธานี