‘โลว์ซัพพลาย-ไฮดีมานด์’ แคมปัส-นิคมฯเรียลดีมานด์ส่งสัญญาณฟื้นตัว!
จากฐานข้อมูล Terra Byte พบว่าทำเล “โลว์ซัพพลาย-ไฮดีมานด์” ใกล้มหาวิทยาลัย และนิคมอุตสาหกรรม เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวของกลุ่ม “เรียลดีมานด์” ที่มีความสามารถที่จะซื้อ (Ability to Pay)
สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย จากฐานข้อมูล Terra Byte ที่รวบรวมจากพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่าคอนโดมิเนียมต่ำกว่า 2 ล้านบาท มีการขยับตัวดีขึ้นในทำเลที่มีดีมานด์ชัดเจน ใกล้มหาวิทยาลัย และใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีดีมานด์หมุนเวียนต่อเนื่องจึงตอบโจทย์การซื้อเพื่ออยู่อาศัย (Real Demand) และลงทุนเพื่อปล่อยเช่า
ขณะที่ “คอนโดมิเนียม” เซ็กเมนต์บนเริ่มชะลอตัว แต่ที่น่าสนใจคือคอนโดมิเนียมเซ็กเมนต์ 7 ล้านบาทขึ้นไป มีโครงการเปิดใหม่มากขึ้นจากเดิมที่หายไปในช่วงโควิด-19 บางโครงการ หรือ บางทําเล มียอดขายดีขึ้น ในส่วน “ทาวน์โฮม” ที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด รองจากคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะเซ็กเมนต์ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของทาวน์โฮมในเซ็กเมนต์ 3-5 ล้านบาท เพราะเป็นตลาดซื้อเพื่ออยู่อาศัย ส่วนตลาด “บ้านเดี่ยว” ถือว่ายังดีอยู่ในเกือบทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะกลุ่มลักชัวรี มีการเปิดตัวสูงต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 10 อันดับอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ หันมาโฟกัสโครงการแนวราบ ยกเว้น เสนาฯ แอสเซทไวส์ และโนเบิล ที่มีสัดส่วนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมมากกว่าแนวราบ โดยทำเลบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่อยู่ในโซนราชพฤกษ์ นครอินทร์ สมุทรปราการ และลาดกระบัง
“ช่วงโควิดโซนลาดกระบังถือว่าซบเซาเพราะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการบินหยุดชะงัก แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินฟื้นกลับมาทำให้ทำเลลาดกระบังเริ่มกลับมาได้รับความนิยม และมีทําเลที่ได้รับความสนใจมากขึ้น อาทิ เพชรเกษม พุทธมณฑล เพราะมีการตัดถนนใหม่เพิ่มขึ้นทําให้อสังหาริมทรัพย์ย่านนั้นมียอดขายขยับตัวดีขึ้น”
ทั้งนี้ ตลาดคอนโดมิเนียมหลังจากที่มีการขยายรถไฟฟ้าครอบคลุมครบทุกเส้นทางมากขึ้น อาทิ สายสีน้ำเงิน สายสีเหลือง สายสีชมพู ทําให้ทําเลคอนโดมิเนียมขยายตัวกว้างขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ในเมืองเท่านั้น แต่ขยายไปยังโซนตามแนวรถไฟฟ้าเหล่านี้ ที่สำคัญราคาถูกกว่า คอนโดมิเนียมในเมืองถึง 3 เท่า!
พอร์ตราคาต่ำกว่า 10 ล้านดีดตัวดีขึ้น
ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า เอสซี แอสเสท มีการปรับพอร์ตที่อยู่อาศัยให้บาลานซ์มากขึ้น โดย “โฟกัส” กลุ่มราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทลงมา เพราะได้รับความนิยม จากปัจจุบันมีสัดส่วนพอร์ตแนวราบ 70% แนวสูง 30% เป็นกลุ่มลักชัวรี 10 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วน 70% และต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วน 30%
“ตลาดบนยังไปได้แต่ไม่ฮอต ปีนี้พอร์ตที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทกลับดีขึ้น และเมื่อพิจารณาพอร์ตพบว่า เอสซี แอสเสท มีโครงการมากกว่า 10 ล้านบาท ครอบคลุมเกือบทุกโลเคชันแล้ว อาจเกิดการกินมาร์เก็ตแชร์กันเอง จึงเลือกขยายพอร์ตราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าระดับลักชัวรี”
ปีที่ผ่านมา เอสซี แอสเสท ได้เปิดตัว “COBE” ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ส่งเสริมสร้างคอมมูนิตี้ เริ่มจาก COBE รัชดา-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว COBE เกษตร-ศรีปทุม ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
ดีไซน์“กรีนเฮ้าส์”ตอบโจทย์กำลังซื้อ
อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 ยังคงมีความท้าทายในหลายปัจจัยลบ ทั้งกำลังซื้อ วัสดุก่อสร้างราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้าง ทำให้การพัฒนาโครงการมีความยากลำบากขึ้น ในฐานะผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับมือปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ โดยใช้ Design Thinking เข้ามาพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการและกำลังซื้อของลูกค้า
เป็นที่มาของโครงการ “กรีนเฮ้าส์” เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีบ้านหลังแรก ซึ่งออกแบบตามแนวคิด “Sharing is Caring” เป็นวิถีการอยู่อาศัยในสังคมแบ่งปันแบบโค-สเปซ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ทุกคนได้แบ่งสันปันส่วน ใช้งานร่วมกัน ระดับราคา 1.29-1.45 ล้านบาท โครงการแรก ซ.เวิร์คพอยท์ ย่านรังสิต ใกล้แหล่งงาน นิคมอุตสาหกรรมนวนครและบางกระดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ สถานศึกษา เช่น ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ม.รังสิต ม.กรุงเทพ และโรงพยาบาล เช่น รพ.เปาโล รังสิต รพ.ปทุมเวช รพ.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต