แสนสิริ รุก 4 โครงการอสังหาฯ เชียงใหม่ มูลค่า 5,600 ล้าน ตามดีมานด์โต
แสนสิริ โหมโครงการอสังหาฯ เจาะทำเลทอง หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว รุกหนักโครงการเชียงใหม่ ขยาย 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,600 ล้าน แรงหนุนท่องเที่ยว-ดีมานด์ คนไทยและต่างชาติเติบโต
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรดแมปของบริษัทได้มุ่ง Strategic Location ที่จะขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตามหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ทำให้มุ่งเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในเชียงใหม่ รองรับการขยายตัวจากลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติที่มีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้หากประเมิน ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต้ต้นปี เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัว จากนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อเนื่อง จากทั้ง เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ชาวจีน และยุโรป พร้อมมีแนวโน้มการพักอาศัยระยะยาวเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดจองโรงแรมสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี รวมถึงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จากศักยภาพของเมืองที่ติดอันดับน่าอยู่ในโลกหลายรายการ และมีโรงเรียนนานาชาติเปิดมากสุดอันดับสองของประเทศต่อจาก กทม.
สำหรับแผนของแสนสิริในปีนี้ มีจะรุกขยายโครงการในเชียงใหม่รวม 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,600 ล้านบาท ทั้งแนวราบ 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ประกอบด้วย
- โครงการเศรษฐสิริ รวมโชค มีพื้นที่ขนาด 29 ไร่ จำนวนทั้งหมด 84 ยูนิต รูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 20 - 35 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 251-407 ตร.ม. โดยเปิดชมครั้งแรกปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา โดยในปัจจุบัน ยอดจองเฟสแรกหมดก่อนเปิดการขายอย่างเป็นทางการ พร้อมมีแผนเปิดขายเฟสใหม่ต่อทันที ในวันที่ 25 – 26 พ.ค.นี้
- “อณาสิริ พายัพ” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในโครงการเดียว ภายใต้แนวคิด “Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัว” โดยที่ผ่านมาสามารถปิดการขาย 2 เฟส รวม 50 ยูนิต ทำให้มีแผนเตรียมเปิดการขายต่อเนื่องในเฟสที่ 3 เดือน มิ.ย. นี้ ราคา 8 - 13 ล้านบาท
- คอนโดมิเนียม เตรียมเปิดการขายคอนโดใหม่ ทำเลใจกลางเมือง เพียง 200 เมตร จาก เซ็นทรัล เชียงใหม่ ดีไซน์สไตล์รีสอร์ท โดยกำหนดขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่ม 2.99 ล้านบาท และ 2 ห้องนอน เริ่ม 5.59 ล้านบาท
- “เดอะ เบส ไฮท์ เชียงใหม่” คอนโดมิเนียม สูงแห่งแรกจากแสนสิริที่เชียงใหม่ มีโลเคชั่นที่ดี 3 นาทีจากเซ็นทรัล สร้างยอดขายโครงการแล้วกว่า 70% กำหนดราคาเริ่ม 2.69 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทประเมินว่ากลุ่มลูกค้าเชียงใหม่จะให้การตอบรับอย่างดีต่อเนื่องในทุกโครงการ ทำให้ภาพรวมในสิ้นปี 2567 สามารถสร้างยอดขายในต่างจังหวัดได้ 10,000 ล้านบาท ได้ตามแผนที่วางไว้