เฟรเซอร์สฯเปิดตัวโคลส รัชดา7หวังเพิ่มพอร์ตคอนโดเสริมแกร่ง

เฟรเซอร์สฯเปิดตัวโคลส รัชดา7หวังเพิ่มพอร์ตคอนโดเสริมแกร่ง

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เผยตลาดคอนโดในเมืองฟื้นเดินหน้าเปิดตัว“โคลส รัชดา 7” แห่งแรกมูลค่า426 ล้านนำร่องหวังเพิ่มพอร์ตคอนโดเสริมแกร่งเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ ซื้อปล่อยเช่า กลุ่มคนจีน

นายอภิชาติ เฮงวาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ผู้บริโภคจนสามารถสร้างยอดขายที่ดีและรายได้รวมติด1ใน7ของบริษัทอสังหาฯ แต่ยังขาดพอร์ตคอนโดมิเนียม ดังนั้นเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้ขยายพอร์ตคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ “โคลส” (KLOS) เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมในทุกเซกเมนต์

ทั้งนี้เนื่องจากภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมกลางใจเมือง มีทั้งกลุ่มคนไทยที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ปล่อยเช่า รวมทั้งกลุ่มคนต่างชาติที่กลับเข้ามา โดยโครงการ โคลส รัชดา 7 เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ มูลค่า 426 ล้านบาท ที่ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตน้อย เพียง 111 ยูนิต ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองย่านรัชดา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางที่อยู่อาศัยและธุรกิจแห่งใหม่ ที่เชื่อมต่อกับโซนกรุงเทพชั้นใน ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
 

ปัจจุบันมีกลุ่มคนสนใจเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์จองดูโครงการจำนวน 900 คน คาดว่า หลังจากเปิดตัวโครงการ 2 สัปดาห์จะมียอดขายไต่ำกว่า50% ทั้งนี้เนื่องจากทำเลรัชดาฯถือเป็นทั้งแหล่งงาน ที่อยู่อาศัย และแหล่งบันเทิงชอปปิ้งในตัวเองที่ได้รับความนิยม เพราะรถไฟฟ้า2สาย ได้แก่ MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ) ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งคนทำงานกลางวันและกลางคืน คาดว่า โครงการจะแล้วเสร็จในกลางปีหน้า

เฟรเซอร์สฯเปิดตัวโคลส รัชดา7หวังเพิ่มพอร์ตคอนโดเสริมแกร่ง

นายอภิชาติ  กล่าวต่อว่า ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทเปิดตัวคอนโดมิเนียม ในราคาเฉลี่ย130,000 บาทต่อตร.ม. เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่ต้องการคอนโดติดรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ในระยะที่เดินได้ไม่เกิน500เมตร ไม่จำเป็นต้องเป็น โลว์ไรส์ เท่านั้นอาจเป็นไฮไรส์ ก็ได้ขึ้นอยู่กับทำเลและที่ดินที่ได้มา ตามแผนบริษัทตั้งเป้าไว้ว่า แต่ละปีบริษัทจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมปีละ 3 โครงการ  คาดว่าเริ่มในปี2568-2569  เนื่องจากเพื่อเกิดความคุ้มค่าในการลงทุนพัฒนาดครงการ เพราะการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA  ต้องใช้เวลานาน
 

 ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัว เพราะซัพพลายที่มีอยู่เริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อไม่มีปัญหากู้ไม่ผ่านมา ผนวกกับมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่ออกมา อาทิ ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนอง อสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ช่วยเกิดการตัดสินใจซื้อมากขึ้น

 รวมทั้งรัฐบาลเริ่มมีการเบิกจ่ายงบประมาณ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและแนวโน้มดอกเบี้ยลดลง รวมทั้งการที่รมต.คลังและผู้ว่าแบงก์ชาติ มีการคุยล้างประวัติหนี้เสียให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีหนี้ไม่มากเพื่อกระตุ้นเกิดกำลังซื้อใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น