ศุภาลัย บิสซิเนส สคูลชูแนวคิด "Low Risk High Return" ลดความเสี่ยง
“ประทีป ตั้งมติธรรม” เผยเคล็ดลับ ศุภาลัย บิสซิเนส สคูลชูแนวคิด "Low Risk High Return" ลดความเสี่ยงธุรกิจ การเงิน เกิด Economy of Scale สร้างความได้เปรียบต้นทุนต่ำ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เน้นการจัดการแบบ Post Modern
หลายคนคงคุ้นกับแนวคิด “High Risk High Return” ยิ่งการลงทุนมีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็จะสูงตาม ซึ่งถูกสอนในสถาบัน MBA ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือทวีปอะไร ต่างสอนเกี่ยวกับ “ความเสี่ยง” และ “ผลตอบแทน” ในทิศทางเดียวกันว่า ถ้าหวัง “ความเสี่ยงต่ำ = จะได้ผลตอบแทนต่ำ” ถ้ายอมรับ “ความเสี่ยงสูง = จะได้ผลตอบแทนสูง”
แต่การสอนใน “ศุภาลัย” นั้นแตกต่างออกไป ในทางตรงกันข้าม “ประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้อำนวยการใหญ่ของ ศุภาลัย บิสซิเนส สกูล มีแนวคิดในการบริหารจัดการความเสี่ยงสวนทางคือ Low Risk High Return หรือ “ความเสี่ยงต่ำ = แต่หวังผลตอบแทนสูง”
สิ่งนี้เป็นไปได้จริงหรือ แล้วจะทำได้อย่างไร?
ประทีป กล่าวว่า ความเสี่ยงมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” และ “ความเสี่ยงทางการเงิน”
แนวทางของศุภาลัยในการลด “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” คือ
• หลีกเลี่ยงโครงการ และทำเลที่มีความเสี่ยงสูง
• พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบริการให้ดีที่สุด โดยนำมาตรฐาน ISO 9001:2015, ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) และการสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมมาใช้ เป็นต้น
• “คุณภาพ” ที่ดีจะสร้าง “แบรนด์” ให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงแต่กลับเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
• ขยายธุรกิจทั้งในแนวนอน และแนวตั้ง เพื่อเพิ่มการเติบโตและบรรลุ “Economy of Scale” ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนลดลง และได้กำไรมากขึ้น
• ดำเนินธุรกิจ นอกจากบนพื้นฐานที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ต้องถูกจริยธรรม + จรรยาบรรณที่ดีด้วย
วิธีการลด “ความเสี่ยงทางการเงิน” ของศุภาลัย คือ
• รักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt/Equity) และอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย / ส่วนของทุน (Gearing Ratio) ให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อลดความเสี่ยง และเพิ่มความน่าเชื่อถือ
• ได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับสูง = “A”
• ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยให้ขยายการเติบโตได้อย่างกว้างขวางทั้งในตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ
รูปแบบการเติบโตของศุภาลัย:
“Dual Track” พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ และแนวสูง กรุงเทพฯ และเมืองต่างจังหวัดปัจจุบัน “ศุภาลัย” กำลังพัฒนาโครงการ 250 โครงการใน 29 จังหวัดทั่วประเทศไทย
นอกจากนี้ ศุภาลัยยังได้ขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน และออสเตรเลีย การลงทุนในออสเตรเลียได้เติบโตขึ้นจาก 1 โครงการเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เป็น 24 โครงการใน 4 รัฐ 6 เมืองในปัจจุบัน
กลยุทธ์ “Dualc Track” และ “Triple Track” มีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม “ศักยภาพการเติบโต” และ “กระจายความเสี่ยง” ซึ่งทั้ง 2 กลยุทธ์นี้ตอบโจทย์ทั้ง 2 เป้าหมายได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของ “ผลตอบแทนสูง”
วิธีที่ดีที่สุดในการวัด “ผลตอบแทนสูง” คือ การเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียน 10 อันดับแรกในอุตสาหกรรมเดียวกัน
ผลลัพธ์การเปรียบเทียบแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนของ “SUPALAI” ที่ดีกว่าอย่างชัดเจน และยังมีความเสี่ยงทางการเงินน้อยกว่า
“ความลับ” เบื้องหลังความสำเร็จในระยะยาวของ “ศุภาลัย” มาจาก “ปรัชญา” ของรูปแบบการจัดการของศุภาลัย คือ Post Modern Management ซึ่งมีทั้งหมด 8 ข้อ ได้แก่
1.เป็นวิธีการใหม่ และดีกว่า ซึ่งมีการใช้ในกลุ่มเล็กๆ
2.ใช้วิธีวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์รวมกับความยืดหยุ่นและพลวัต เช่น 2 + 2 = 3 + 1 หรือ 8 / 2 หรือ √16
3.อิงจากทฤษฎี และ/หรือประสบการณ์
4.ใช้ข้อมูลจากหลายมิติ เช่น สังคมวิทยา จิตวิทยา สุนทรียศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ
5.สามารถใช้ได้กับธุรกิจทุกขนาดและทุกประเภท
6.ใช้วิธีใดๆ ก็ตามที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากกว่า
7.มีการวางแผนโดยใช้เวลา และทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนเสียโอกาส
8.มุ่งเน้นความพึงพอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์