ต่างชาติแห่ช้อปคอนโดพัทยา ดันที่ดินพุ่งตารางวาละล้าน!
ต่างชาติแห่ช้อปคอนโดพัทยา ดันที่ดินพุ่งตารางวาละล้าน!ผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ครึ่งแรกปี 2567 พบว่า ตัวเลขโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติในจังหวัดชลบุรีขึ้นมาเป็นอันดับ 1 สูงกว่ากรุงเทพฯ
KEY
POINTS
- ผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ครึ่งแรกปี 2567 พบว่า ตัวเลขโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติในจังหวัดชลบุรีขึ้นมาเป็นอันดับ 1 สูงกว่ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2566
- สะท้อนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย และการเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในโซนพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี
- ส่งผลให้ดีมานด์อสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว ดีเวลลอปเปอร์รรายใหญ่พัฒนาคอนโดมิเนียมมากขึ้น คาดว่าในปี 2568 จะมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ยูนิต
สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ ระบุว่า การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งบางรายประกาศพัฒนาโครงการขนาดใหญ่สร้างการเปลี่ยนแปลงและการปรับเพิ่มของราคาที่ดินไปมากแล้ว ที่ดินบางทำเลที่เหลือน้อยก็มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทำเลติดถนนเลียบชายหาด
"ที่ดินติดชายหาดบางแปลงประกาศขาย 1 ล้านบาทต่อตารางวา แต่โดยทั่วไปยังอยู่ในช่วง 200,000-500,000 บาทต่อตารางวา แล้วแต่ทำเล และระยะห่างจากชายหาด ผู้ประกอบการบางรายมีที่ดินในมือมานานแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้ตลาดคอนโดมิเนียมพัทยาชะลอตัว จึงต้องชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ บางรายเปลี่ยนรูปแบบโครงการหันพัฒนาโรงแรมแทน"
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดท่องเที่ยวของพัทยาขยายตัวดีมาก อัตราการเข้าพักโรงแรมในพัทยา ไตรมาส 3 สูงกว่า 78% ไปแล้ว ปี 2567 มีโอกาสเติบโตสูงกว่าปีก่อนหน้า 3-5% ที่สำคัญการเข้ามาของต่างชาติโดยเฉพาะชาวรัสเซียและจีน เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญทำให้ตลาดโรงแรม และคอนโดมิเนียมในพัทยาขยายตัวมากกว่าที่ผ่านมา
"แม้จะเปิดขายใหม่ปีละมากกว่า 10,000 ยูนิตเหมือนอดีตช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ แต่หลายโครงการที่เปิดขายในช่วงเวลานั้นยังขายไม่หมดถึงปัจจุบัน และบางโครงการก็ปิดการขายหรือยกเลิกโครงการไปแล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายรายมีการปรับตัวและลดการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมลง ไม่ได้เน้นไปที่กำลังซื้อชาวต่างชาติแบบช่วงก่อนหน้านี้แล้ว"
แนวโน้มดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่หันมาขยายฐานลูกค้าไทย พร้อมกับการขายชาวต่างชาติให้ได้มากที่สุด และกระตุ้นให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งในกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงไม่เน้นโฟกัสไปที่ผู้ซื้อต่างชาติกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเป็นพิเศษเพื่อป้องกันปัญหาเช่นในอดีตเมื่อค่าเงินรูเบิลลดลงมีผลให้ชาวรัสเซียจำนวนไม่น้อยไม่โอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในพัทยา
สำหรับการพัฒนาโครงการขณะนี้ “แสนสิริ” ได้ที่ดินหน้าหาดพัฒนาโครงการคอมโดมิเนียมหรูแบรนด์ใหม่ “LIT Residence" ติดถนนเลียบชายหาด (พัทยาสาย 1) ใกล้เซ็นทรัล พัทยา เป็นที่ดินฟรีโฮลด์ เจาะเซกเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี ราคาไม่ต่ำกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร มีแผนเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2568 ก่อนหน้านี้มีโครงการ “อารมณ์” ของกลุ่มคราฟเวิร์ค ราคาไม่ต่ำกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร
โดยยอดขายคอนโดมิเนียม Branded Residence ในพัทยาสูงถึง 75% ขณะที่ยอดขายในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 45% ส่วนใหญ่ราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อตารางเมตร
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เตรียมเปิดตัวโครงการ อควารัส จอมเทียน พัทยา มูลค่า 4,500 ล้านบาท รองรับดีมานด์รัสเซีย ยุโรป และจีน ราคา 150,000 บาทต่อตารางเมตร เพราะมองเห็นโอกาสทำตลาดในพัทยาจับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งที่ผ่านมาดีเวลลอปเปอร์จากกรุงเทพฯ เน้นเจาะลูกค้าท้องถิ่น หรือ คนกรุงเทพฯ ที่ต้องการที่พักในพัทยาเป็นหลัก ถือเป็นช่องว่างที่แอสเซทไวส์เข้าไปรุกตลาดต่างชาติจริงจัง
คริส เชิดสุริยา ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร ออเนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ชลบุรี ถือเป็นศูนย์กลางของโซนอีอีซี ที่มีการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานจากภาครัฐบาลกว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งรถไฟความเร็วสูง สนามบิน ท่าเรือ ทำให้เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่งผลให้มีดีมานด์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทำเลวงศ์อมาตย์ พัทยา ซึ่งเป็นจุดไข่แดงของชลบุรี
ทั้งนี้ ออเนอร์ กรุ๊ป เปิดตัว “Once Wongamat” คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี 56 ชั้น สูงสุดในพัทยา จำนวน 548 ยูนิต มูลค่า 8,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท จนถึง 100 ล้านบาท เฉลี่ย 170,000-200,000 บาทต่อตารางเมตร เจาะกลุ่มเป้าหมายเรียลดีมานด์และนักลงทุน สัดส่วน 50:50 ผู้ซื้อส่วนใหญ่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง โครงการเริ่มก่อสร้างปี 2568 คาดแล้วเสร็จในปี 2572 และขายหมดภายใน 4 ปี