คาดตลาดสมุนไพร ปี 65 สร้างรายได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท

วันนี้ (6 กรกฎาคม 2565) ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และคณะผู้บริหาร

เปิดงาน มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติและการประชุมวิชาการประจำปี การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก ครั้งที่ 19 ภายใต้แนวคิด “สร้างเศรษฐกิจไทย ด้วยกัญชาไทย นวดไทย อาหารไทย” พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณและโล่รางวัลเชิดชูเกียรติหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ.2565 นายเอียะ สายกระสุน อายุ 72 ปี หมอพื้นบ้านจาก จ.สุรินทร์

• คาดปี 65 ตลาดสมุนไพรเกือบ 50,000 ล้านบาท

นายอนุทิน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย” ว่าการจัดงานสมุนไพรแห่งชาติและการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกครั้งที่ 19 ท่ามกลางความท้าทายแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งนานาชาติยอมรับศักยภาพของไทยเรื่องสาธารณสุขการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก โดยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรต่างๆ มีชื่อเสียง เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ

“การยกระดับการแข่งขันของผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อการพัฒนาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย  ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานในภูมิภาค และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ก้าวเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสมุนไพรของโลก าดว่าปี 2565 จะเกิดการสร้างรายได้จากการพัฒนาสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประมาณเกือบ 50,000 ล้านบาท”นายอนุทิน กล่าว

 

• 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรสัดส่วนตลาดสูง

นายอนุทุน กล่าวสมุนไพรไทย ได้ก่อเกิดการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง สร้างอาชีพ กระจายรายได้และทำให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองได้ โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีสัดส่วนตลาดสูงสุด คือ

1.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดพร้อมดื่ม

2.ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบรรเทาอาการเจ็บป่วย

3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

โดยมีแนวโน้มในการเจริญเติบโตสูงยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้การพัฒนาครัวไทยสู่ครัวโลก นำสมุนไพรประกอบอาหารเป็นการสร้างสุขภาพ ก็ทำให้อาหารไทยเป็นที่ยอมรับและรู้จักชื่นชมในระดับโลก ทำให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามากินเที่ยวในประเทศไทย

สมุนไพรไทยเป็นที่ยอมรับ และอาหารไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลก รวมทั้งการส่งเสริมพัฒนาการนวดไทยที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโกเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา

• ปลดล็อกกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ ไม่ใช่สันทนาการ

ปัจจุบันได้พัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงาม เช่น สปา การนวดไทย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การสอนนวดไทยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งหมดนี้สามารถสร้างเศรษฐกิจให้ประเทศไทย มากกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งนำไปสู่การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่าขอยืนยันว่าการปลดล็อคกัญชากัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์ประโยชน์ทางการแพทย์  ไม่เคยสนับสนุนให้นำมาใช้เพื่อสันทนาการ และส่งผลต่อจิตประสาท

โดยขณะนี้ได้มีการนำภูมิปัญญาจากตำรับยาหมอพื้นบ้าน มาใช้ประโยชน์จริงๆซึ่งตำรับยาที่มีส่วนผสมของกัญชาทางการแพทย์ได้รับการบรรจุเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ นำไปใช้ในคลินิกกัญชากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษามากกว่าแสนราย

 

 

•  ยันปลดล็อกกัญชาเกือบเดือนไม่มีปัญหาการใช้

“กัญชา” เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ สธ.และรัฐบาลยืนยันสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกวิธีและปลอดภัยและเพื่อส่งเสริมสมุนไพร อาหารไทย ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ ความสวยงามและส่งเสริมอุตสาหกรรม เกษตรกร นักลงทุน และประชาชนที่สนใจในธุรกิจ

“ตั้งแต่มีการปลดล็อคกัญชามาเกือบ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยมุ่งผลประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์  โดยการที่มีผู้เสียผลประโยชน์ หรือสื่อบางกลุ่มมาบอกว่าเราปลดล็อคกัญชาในรัฐบาลชุดนี้ ผู้บริหารชุดนี้ไม่มีความรับผิดชอบ ปลดล็อคกัญชา ด้วยความไม่รอบคอบ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการปลดล็อคกระทรวงสาธารณสุขได้มีการออกประกาศระเบียบ การบังคับใช้กฎหมายในการควบคุม เพื่อให้ใช้ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สธ.ไม่เคยสนับสนุนการใช้กัญชาในสันทนาการโดยปราศจากการยับยั้งชั่งใจ ไม่สนับสนุนการใช้กัญชาที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่สนับสนุนให้ใช้กัญชาโดยออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทมากกว่างานใช้เพื่อรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย รักษาอาการเครียด อาการนอนไม่หลับซึ่งล้วนแล้วเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และประหยัดงบประมาณในการซื้อยาราคาแพง

• สธ. พร้อมดีเบตคนเห็นต่างปลดล็อกกัญชา ฝากมาเดินงานสมุนไพร

ทั้งนี้ สมุนไพรไทยเป็นยาที่ขาดการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ แต่จากนี้ สธ.จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น ผู้บริหารกรมการแพทย์แผนไทยจะไม่ใช่กรมโบราณ รัฐมนตรีกับปลัดร่วมกันแต่งตั้งต้องดูแล้วว่ามีความสามารถผลักดันให้คนไทยลืมตาอ้าปากด้วยสิ่งที่เรามีอยู่ในประเทศเรา คนที่จะมาคุมกรมฯ นี้ ได้จะต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลเพิ่มมูลค่าของสมุนไพร

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่าตั้งแต่สธ. ประกาศปลดล็อคกัญชามาเป็นระเวลาเกือบ 1 เดือน ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดโทษ หรือสร้างปัญหาในการใช้ ยกเว้นผู้ที่ตั้งใจและผู้ที่เสียประโยชน์ที่ไม่ต้องการให้สมุนไพรกัญชา กัญชงเกิดขึ้นในประเทศ  

อย่างรายการข่าวช่องหนึ่ง ระบุว่ารัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ทำนโยบายกัญชาแบบขาดความรับผิดชอบต่อสังคมนั้น ต้องบอกว่าผู้ที่นำเสนอในเชิงนั้นต่างหาก ที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ขอให้มาเดินเที่ยวชมงานพูดคุยกับคนในงานมหกรรมสมุนไพร เพื่อเปิดหูเปิดตา ดูว่ามีนวัตกรรมอะไร กัญชาสร้างประโยชน์อย่างไร  คนในกระทรวง สธ. พร้อมไปดีเบต อย่าพูดดุด่าอยู่คนเดียว

ขณะที่กรณีสื่อที่พยายามโจมตีนโยบายกัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า ปกติเห็นแต่คนโง่แล้วอวดฉลาด แต่นี่โง่แล้วอวดโง่ ขอให้มาเที่ยวมหกรรมสมุนไพรฯ ให้ได้ความรู้ มาสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครอยากทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ

ไม่ว่าท่านจะพยายามต่อต้านอย่างไร แต่รพ.สังกัดสธ.ทุกแห่งมีคลินิกกัญชา มีหมอแผนปัจจุบัน หมอแผนไทยและหมอทางเลือกที่ควบคุมกำกับดูแลสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยกว่าล้านคน และผู้ป่วยก็มีความพึงพอใจต่อการรักษาที่ได้รับ เป็นการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ

• ชวนร่วมงาน "มหกรรมสมุนไพรไทยแห่งชาติ" 

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก โดยแต่ละปีมีประชาชนเข้าร่วมงานครั้งละไม่น้อยกว่า 200,000 คน ช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสมุนไพรไทย มีรายได้หมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท 

โดยวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อเชิดชูคุณค่าของสมุนไพรไทย รวมทั้งแสดงถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรไทยทั้งในและต่างประเทศที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  ให้คนไทยและคนทั่วโลกมั่นใจในผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทย  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้นำศักยภาพของแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ให้มาประสานรวมเป็นหนึ่งเดียว เปิดโลกทัศน์การดูแลรักษาสุขภาพของคนไทยด้วยแนวทางที่สอดประสานกันได้ทุกภาคส่วน

สำหรับในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 10 กรกฎาคม 2565 นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 11 - 12 ศูนย์แสดงสินค้าและ การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ กิจกรรมในงาน ประกอบด้วย โซนแสดง

Innovation พบกิจกรรม Business Matching และแสดง R&D ปรึกษาหารือ เจรจาธุรกิจ และแสดงนิทรรศการเพื่อนำเสนองานวิจัย และนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์สมุนไพรในทุกระดับ

Showcase เน้นกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs โดยเชิญเครือข่ายเข้าร่วม showcase, Innovation แสดงศักยภาพของผู้ประกอบการ, Beauty & Cosmetic Wellness Ganja, Food & Beverage, นิทรรศการ Beauty & Cosmetic Wellness, Ganja UNESCO World Integral Heritage, อาหารไทย อาหารเป็นยา (ลานเมือง)

โซน Wisdom ประกอบด้วย นิทรรศการ 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย ให้บริการ สาธิตโดยหมอพื้นบ้าน หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ แสดงผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น  นวดไทย 4 ภูมิภาค ให้บริการและสาธิตด้านการนวดไทย  เช่น การเหยียบเหล็กแดง และการนวดน้ำมันลังกาสุกะ, กาดมั่ว สาธิต จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่พัฒนาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน

โซน Service ให้บริการและให้คำปรึกษาฟรี ด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก โซนวิชาการ พบกับการประชุมวิชาการประจำปี การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 19, การประกวดผลงานวิชาการประจำปี นำเสนอผลงงานวิชาการที่ผ่านการคัดเลือก ,อบรมตลาดความรู้ (หลักสูตรระยะสั้น) ฟรี จำนวน 27 หลักสูตร

โซนเวทีกลาง (Main Stage) พบกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ มากมาย ตลอดงาน โซนจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีมาตรฐาน ฟรีตลอดงาน  แจกต้นพันธุ์สมุนไพรหายาก แจกฟรีวันละ 300 ต้น แจกผลิตภัณฑ์สมุนไพร และ ลุ้นรางวัลมากมาย ภายในงาน ขอเชิญทุกท่านร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 19