'กล้วยน้ำว้า'ราคาพุ่ง หวีละ50-70บาท
ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ กล้วยน้ำว้าหวีละ 50-70 บาท เผยจีนกว้านซื้อไปขายหมด คนไทยแทบไม่มีกล้วยกิน
รายงานข่าวแจ้งว่าในปัจจุบันกล้วยน้ำว้าในลพบุรี มีราคาแพงมาก ตามแผงขายกล้วยน้ำว้าแทบจะไม่มีกล้วยน้ำว้าวางขาย ถึงมี ก็มีแต่กล้วยที่ลูกไม่อวบ มีแต่กล้วยที่ลูกผอม ไม่ค่อยสมบูรณ์เหมือนกล้วยขาดน้ำ ทำให้กล้วยน้ำว้าในลพบุรีถ้าเป็นกล้วยสวยลูกอวบ หวีหนึ่งจะมีลูกประมาณ 12-15 ลูกราคาหวีละ50-70บาทโดยเฉพาะบางแผงที่ซื้อจากตลาดมาวางขายจะขายแพงมากและที่สำคัญหาซื้อแทบไม่ได้
นายชูชีพ อุทะโก เกษตรอำเภอเมืองลพบุรีกล่าวว่าปัจจุบันกล้วยน้ำว้าในลพบุรี ขาดแคลนมาก เกษตรกรที่ปลูกกล้วยน้ำว้าเป็นไร่แทบไม่มี มีอยู่แถวตำบลตะลุงที่มีเกษตรกรปลูกเฉพาะกล้วยน้ำว้า 2 ไร่กว่า แต่ก็มีราคาแพงจากสวนราคาหวีละ 35-50 บาท เพราะในปัจจุบัน พ่อค้าจัดส่งกล้วยน้ำว้าไปขายยังประเทศจีนหมดหรือไม่ก็ พ่อค้าคนจีนมากว้านซื้อไปขายที่ประเทศจีนทำให้กล้วยน้ำว้ามีราคาแพง
“ที่สำคัญปีที่แล้วประเทศประสบภัยแล้งอย่างหนัก เกษตรกรที่เพราะปลูกกล้วยเสียหายหนัก เพราะต้นกล้วยไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง ต้นกล้วยล้มตายกันเป็นจำกนวนมาก กล้วยที่รอดมามีปลีมีลูกก็ลูกไม่ใหญ่ไม่อวบ กล้วยที่ไม่สวยเหล่านี้อหละที่ขายในตลาดบ้านเรา ส่วนกล้วยๆส่งออกขายต่างประเทศหมด และที่สำคัญเกษตรกร ไม่มีการเพาะปลูกกล้วยเป็นไร่ๆคงจะมีต้นกล้วยที่ปลูกตามหัวไร่ปลายนาหรือปลูกไว้ตามร่องส่วน ข้างบ้าน”นายชูชีพกล่าว
นายไพศาล บุญรอด สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลตะลุง หมู่ ที่ 1เป็นเกษตรกร เป็นผู้ปลูกกล้วยน้ำว้า อยู่ที่ ตำบลตะลุง อำเภอเมืองลพบุรี กล่าวว่า ตนได้ปลูกกล้วยน้ำว้าเป็นน้ำว้าขาวไว้ 10ไร่ โดยจะตัดขายส่งกล้วยที่หวีละ 30-35 บาท โดยนับลูกได้ประมาณหวีละ 12-15 ลูกต่อหวี แล้วจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตัดเครือกล้วยในสวนวันละประมาณ 15-20 เครือเพื่อส่งขาย ทำให้มีรายได้ประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
“ปลูกกล้วยมาตั้งแต่ปี 2555 แล้วปีนี้เป็นปีแรกที่เพิ่งจะขายกล้วยได้รายดีมาก เนื่องจากมีความต้องการของตลาดสูง ทำให้กล้วยในสวนบางครั้งเวลาแก้กล้วยก็มักจะหายประจำ และกล้วยในสวนของตนแม้จะในฤดูแล้งก็ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากตนมีบ่อน้ำของตัวเองและสวนยังอยู่ติดกับแหล่งน้ำธรรมชาติจึงไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำขาดเลยไม่ได้รับผลกระทบ สำหรับปีนี้ที่กล้วยแพงคงจะกระทบพวกแม่ค้ากล้วยปิ้งหรือกล้วยทอด เพราะราคากล้วยถือว่าแพงมาก” นายไพศาล กล่าวในที่สุด