‘บี้ เดอะสกา’ Youtuber สร้างเสียงหัวเราะ

          หากเอ่ยชื่อ “กฤษณ์ บุญญะรัง” หลายคนก็จะทำหน้างงๆ ว่าใครกัน แต่ถ้าบอกว่า “บี้ เดอะสกา” ทุกคนต้องร้องอ๋อ...กับ Youtuber สายฮา ที่ตัวตนของเขามีมากกว่าสร้างเสียงหัวเราะด้วยความคิดอ่านที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ขณะที่วัยเด็ก เขาเป็นถึงตัวแทนจังหวัดหนองบัวลำภูในการแข่งขันโอลิมปิกคอมพิวเตอร์ มุ่งมั่นเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ เพื่อตามรอยไอดอลที่ชื่อ บิลล์ เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟท์
             “ผมชอบคอมพิวเตอร์มาก ตอนเรียนชั้น ม.3 มีโอกาสเข้าไปแข่งโอลิมปิกคอมพิวเตอร์ และผ่านถึงรอบ 3 ไปเข้าค่ายกับเพื่อนๆ ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ จากที่รู้สึกว่าตัวเองเก่งมาก แต่พอไปเข้าค่ายก็เจอคนที่เก่งกว่าอีกมากมาย ตอนนั้นทำให้รู้ว่า ถ้าเรายังอยู่ในสังคมเดิมๆ ก็จะรู้แต่สิ่งเดิมๆ เหมือนอยู่ในกะลา พอเจอคนใหม่ก็จะเจอสิ่งใหม่ ทำให้ผมเปลี่ยนเป็นคนที่ขยันหาความรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา” บี้กล่าวในงาน SPU The Professional “เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง” มหาวิทยาลัยศรีปทุม
            เขาย้อนรำลึกถึงจุดเปลี่ยนแรกของชีวิตที่ได้จากค่ายโอลิมปิกวิชาการ หลังจากได้สัมผัสคลุกคลีอยู่กับคนเก่งจำนวนมาก ทั้งยังจุดประกายให้ฝันที่จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จร่ำรวยเหมือนบิลล์ เกตส์ จึงมุ่งเป้ามาทางด้านคอมพิวเตอร์โดยไม่ลังเล กระทั่งปี 2 เจอวิชาโหดมากที่รุ่นพี่ติดเอฟถึง 16 คน จนเรียกกันว่าเป็นฝูงบิน F16 เขาก็ตั้งใจอ่านหนังสือเยอะมาก แต่กลับไม่เข้าหัวเลยจนเริ่มเครียด ตอนนั้นคิดว่าเพื่อนก็คงเครียดเหมือนกัน เลยอยากทำบางอย่างแก้เครียด ประกอบกับช่วงนั้นเพลงที่ชื่อ ”มันต้องถอน“ ของปอยฝ้าย มาลัยพร กำลังดัง ก็เลยหาวิธีสร้างความบันเทิงโดยทำคลิปวีดิโอลิปซิงก์อัพโหลดผ่านเอ็มเอสเอ็น เพียงคลิปวีดิโอเดียวได้เปลี่ยนคนธรรมดาให้มีชื่อเสียงได้ในพริบตาเสมือนเป็นเน็ตไอดอลย่อมๆ ตามมาด้วยการทำคลิปลิปซิงก์โฆษณาไทยประกันชีวิต Que Seira Seira เพลง I need somebody ของพี่บี้ เดอะสตาร์ เพลงกังนัมสไตล์และอีกมากมาย

          บี้เดอะสกาเริ่มทำคลิปขณะเป็นนักศึกษาปี 2 และสนุกกับการหาโจทย์ใหม่มานำเสนอ ในขณะที่ความฝันที่จะตามรอยเจ้าพ่อไมโครซอฟท์เริ่มเลือนลาง
          “ผมคำนวณดูแล้วว่า แม้จะได้ปริญญาเกียรตินิยมก็ต้องไต่เต้าจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ฝึกหัด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปีกว่าจะขึ้นเป็นระดับจูเนียร์ ซีเนียร์จากนั้นเริ่มตั้งบริษัทและกลายเป็นบิลล์ เกตส์ อาจต้องใช้เวลา 5-7 ปีแล้วแต่ความเทพ ซึ่งนานเกินไป ขณะที่การเดินตามเส้นทางฝันนั้นใช้เวลานานเกินไปเมื่อเทียบกับการเป็น Youtuber ที่เห็นผลเร็วทันตา ผมทำคลิปไปสักระยะ คัฟเวอร์ ล้อเลียนตามกระแส อะไรฮอตอะไรฮิตก็ทำ คิดว่าเดี๋ยวรายได้ก็มา แต่กลับสวนทางเพราะคนดูลดลง สปอนเซอร์ก็ไม่มี ไปแคสงานก็ไม่ได้ จนไม่มีรายได้ ทำให้เริ่มฉุกคิดว่า ทางนี้มันใช่จริงหรือ”
          เขาเหลือเงินเก็บไม่ถึงพันบาทแล้วยังต้องดูแลพนักงานอีก ทำให้ต้องคิดว่าต่อไปจะทำอย่างไร ยังจะตามความฝันอยู่หรือไม่ ในช่วงที่เหมือนกับว่าประตูหน้าต่างทุกบานปิดสนิท เขาก็ได้รับลิงก์เพลงกังนัมสไตล์จากแฟนคลับ โอกาสของเขากลับมาอีกครั้ง
              “ผมโพสต์ชวนแฟนคลับมาร่วมถ่ายทำคลิปด้วยก็ได้มา 10 คน แล้วกระจายไปทั่วทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ ห้างสรรพสินค้าและน้ำพุพารากอน ทำให้เหมือนในเอ็มวี ผลคือการตอบรับดีมากมีคนดูกว่า 3 แสนวิว ตอนนั้นไฟแห่งความฝันจุดติดอีกครั้ง รายการทีวีแทบทุกช่องเรียกไปสัมภาษณ์ มีงานอีเว้นท์และมีรายได้ จึงตัดสินใจเปิดบริษัท เดอะ สกา ฟิล์ม จำกัด โดยมีเป้าหมายคือ การทำวีดิโอคลิปมอบความสุขแก่คนดูในประเทศไทย ด้วยคำที่ว่า “แค่เห็นเพื่อนๆยิ้มผมก็โคตรมีความสุขแล้ว” เน้นทำวีดีโอเรียกเสียงฮาพาคนดูยิ้มเป็นส่วนใหญ่หลากหลายแนวมากมายไม่จำกัด"
      เขาหวังว่า เดอะสกาฟิล์มจะเป็นเหมือนเวิร์คพอยท์ที่มีความบันเทิงครบครัน มีสตูดิโออลังการ และภายใน 10 ปีก็อยากเป็นเหมือนแกรมมี่ที่มีสื่อทุกช่องทาง