'อภัยภูเบศร' พร้อมรับคนไข้ต้องใช้ 'น้ำมันกัญชาเดชา' มาดูแล
"รพ.อภัยภูเบศร" พร้อมรับช่วงดูแลคนไข้ใช้น้ำมันกัญชาจากอ.เดชา คาดได้ข้อสรุปวันที่ 24 ก.ค.นี้ ขณะที่มูลนิธิข้าวขวัญรวบรวมผู้ป่วยได้แล้ว 2 หมื่น เตรียมส่งให้ สธ.พิจารณาจัดสรร ไปรับน้ำมันกัญชาที่รพ.ใกล้บ้าน
จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จะโอนผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลมาให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลแทนระหว่างรอการรับรองเป็นหมอพื้นบ้านว่า ถ้าส่งมาก็ดูแล แล้วไปทำเรื่องการปรับแก้ปรับแก้ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน ฉบับวันที่ 10 มิ.ย. 2562 ซึ่งรวมถึงหมอพื้นบ้านอีก 3,000 คน ย้ำว่าที่ปรับแก้ตรงนี้มีการพิจารณาตามเหตุ ตามผล เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยกว่า 4 หมื่นคน และหมอพื้นบ้านอีกกว่า 3 พันคน ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อนายเดชาคนเดียว
ล่าสุด วันนี้(23 ก.ค.) นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สำหรับการเปิดคลินิกกัญชาของรพ.ภาพรวมถือว่าค่อนข้างดี แต่ยังมีผู้ป่วยน้อยประมาณ 12 ราย ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น ในเรื่องการดูแลผู้ป่วยของนายเดชา หาก รมว.สธ.มีนโยบายลงมา รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็ไม่ขัดข้อง พร้อมที่จะดูแล แต่เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียด คาดว่าวันที่ 24 ก.ค.นี้จะได้ข้อสรุป
นายพิพัฒน์ มงคลเกิด ผู้แทนมูลนิธิข้าวขวัญ จุ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อผู้ป่วยที่มาขอรับน้ำมันกัญชากับทางมูลนิธิฯ ซึ่งรวบรวมได้แล้ว 20,000 รายชื่อ จากผู้ป่วยที่มีกว่า 40,000 คน เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ สธ. ในการไปพิจารณาว่า ผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาอยู่ทั่วประเทศนี้ อยู่ใกล้โรงพยาบาลสังกัด สธ.แห่งใดที่มีความพร้อมในการแจกจ่ายน้ำมันกัญชาสูตรที่ใกล้เคียงกับ อ.เดชา ซึ่งจะเป็นโรงพยาบาลอะไรบ้างนั้นคงต้องรอทาง สธ.ประชุมหารือจัดสรรอีกครั้ง ส่วนการรวบรวมรายชื่อทั้งหมดนั้นคาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะเราไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ มีแต่อาสาสมัครที่มาร่วมกันทำงาน
“ ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ที่ต้องโอนผู้ป่วยไปให้ รพ.รัฐดูแลก่อนนั้น ไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องของน้ำมันกัญชา เพราะทาง สธ.สามารถขอวัตถุดิบสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในการนำมาผลิตได้ง่าย และก็มีหลายหน่วยงานในสังกัดที่มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี ทั้ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ที่เปิดคลินิกกัญชาแล้ว และมีการผลิตน้ำมันกัญชา ซึ่งสูตรก็ใกล้เคียงกับของ อ.เดชา ก็สามารถผลิตและแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ไปรับ หรือองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ก็อยู่ระหว่างการผลิต แต่สิ่งสำคัญ คือ ผู้ป่วยจะต้องได้รับน้ำมันกัญชาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามเดิม”นายพิพัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิข้าวขวัญ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ มูลนิธิข้าวขวัญ ว่า อ.เดชา จำเป็นต้องหยุดผลิต แจกจ่ายน้ำมันกัญชา แต่ไม่ได้ทอดทิ้งผู้ป่วย ท่านได้ขอให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับคนไข้ทั้งหมดไปดูแล และรับยาต่อจาก รพ.ของรัฐที่มีความพร้อมเรื่องน้ำมันกัญชา ให้ดูแลผู้ป่วยในระหว่างดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมายในการรับรองหมอพื้นบ้าน และขอให้ รพ.รัฐทุกแห่งที่รับผู้ป่วยไปดูแล ต้องไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายกับผู้ป่วย ต้องแจกฟรีเหมือนกับที่ อ.เดชาเคยแจก ซึ่ง รมว.สธ.ก็รับปากและได้ดำเนินการต่อแล้ว ขอให้ผู้ป่วยที่รอยาคอยติดตามข่าวว่า จะมีโรงพยาบาลไหนบ้าง