คลี่ปมร้อน 'ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน'
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในแวดวงการศึกษาจะเห็นการแต่งกายชุดดำของกลุ่มองค์กร Save BCC ประกอบด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง และศิษย์เก่า โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กว่า 500 คน
กลุ่มหนึ่งที่ได้แต่งชุดดำเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 28 ต.ค.2562 เพื่อทวงถามความเป็นธรรม กรณีคณะกรรมการสภาคริสตจักรในประเทศไทยมีการสอบสวนและมีมติสั่งปลด นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนชุดใหม่
จากปมการจัดซื้อที่ดินและกิจการของ ร.ร.บึงกาฬพิทักษ์ศึกษา หรือโรงเรียนบึงกาฬคริสเตียนขัดต่อระเบียบข้อบังคับการบริหารหน่วยงานและสถาบันของสภาคริสตจักรในประเทศไทย และมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 2009
หลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างของสภาคริสตจักรในประเทศไทย และมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 2016 เนื่องจากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและผลคำตัดสินไม่มีความเป็นธรรม และผู้บริหารโรงเรียนและสภาคริสตจักรในประเทศไทย ไม่เคยรับฟังใดๆ และการแต่งตั้งผู้บริหารเข้ามาใหม่อาจมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
โดยทางกลุ่มองค์กร Save BCC ร่วมกับประชาคมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ออกมารวมตัวชุมนุมครั้งนี้ นายชัชวีร์ ชีวีวัฒน์ ศิษย์เก่า ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ รุ่น 136 และผู้ปกครองนักเรียนรุ่น 173 กล่าวว่า เคยออกมาเรียกร้องแล้วเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2562 แต่ทางคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และสภาคริสตจักรในประเทศไทย ใช้วิธีเดิม คือ เงียบ และมองว่ากลุ่มคนจำนวนมากทั้งศิษย์เก่าและผู้ปกครองจะสลายตัวไปเอง
การที่ปลดนายศุภกิจ และนายวัชรพงษ์ ถือเป็นผู้นำการศึกษาและผู้ปกครองไว้ใจ อีกทั้งเมื่ออ่านผลสอบสวนแล้วรู้สึกไม่เป็นธรรม เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งมา เป็นการกล่าวหาเองและสอบสวนเอง เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน ผลการสอบสวนจึงออกมาแบบนี้
“การมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้บอร์ด ร.ร.และผู้บริหารมูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทยออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะมีคนเดือดร้อนขนาดนี้ ออกมาประท้วงกันขนาดนี้ และเป็นครั้งแรกที่มีการไม่จ่ายค่าเทอม ซึ่งขณะนี้มีผู้ปกครองจ่ายค่าเทอมไม่ถึง 17% ก็ต้องพิจารณาผลงานตัวเองได้แล้ว โดยขอให้ลาออก ถ้าไม่ลาออกก็ต้องปลด”นายชัชวีร์ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ ได้มีการไปยื่นคัดค้านการแต่งตั้งนายบรรจง ชมภูวงศ์ มาเป็น ผอ.ร.ร.คนใหม่ ต่อสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และยื่นให้กรมการปกครอง ซึ่งเป็นนายทะเบียนมูลนิธิ ให้ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลการใช้เงินผิดประเภท โดยขอให้ตรวจสอบและถอดถอนกรรมการมูลนิธิสภาคริสตจักรฯ
ส่วนเรื่องการตรวจสอบการจัดซื้อที่ดินก็ต้องมาว่ากัน อาจต้องตั้งสอบใหม่เพื่อให้ความเป็นธรรมจริงๆ
ขณะที่ด้านกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการให้นายอรรถพล ตรึกตรอง รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ลงไปดูข้อมูลแล้ว ซึ่งภายใน 30 วัน น่าจะสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้
ขณะเดียวกันได้หารือกับ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ กำกับดูแลโรงเรียนเอกชนโดยตรงแล้ว และยืนยันว่าสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้แน่นอน ส่วนจะเป็นแนวทางใดนั้น คงต้องดูความเหมาะสมของผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง โดยต้องเข้าไปดูรายละเอียดที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ว่า ถึงขึ้นต้องปลดผู้อำนวยการโรงเรียนหรือไม่ และมีสิทธิทำได้หรือไม่
"ที่ผ่านมา มีคนของกรุงเทพคริสเตียนฯหลายกลุ่มขอเข้าพบผม และได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งเท่าที่ดู เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางกฎหมายทั้งสิ้น ทาง ศธ.เองคงทำเท่าที่สามารถทำได้ ตามอำนาจการบริหารของ ศธ. ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยไว้เฉยๆ มั่นใจว่าหากทุกฝ่ายมานั่งคุยกันถึงปัญหาที่เกี่ยวข้อง ก็น่าจะหาทางออกได้” นายณัฏฐพล กล่าว
ล่าสุด (31 ต.ค.2562) นายอรรถพล ได้ลงนามตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีความขัดแย้งภายในของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยไปแล้ว พร้อมกำชับให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวเร่งสรุปข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ ภายใน 7 วัน
นายอรรถพล กล่าวว่าจากการรายงานเบื้องต้น พบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อน โดยจะมีการนัดหารือกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่คนละวัน ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม นายณัฏฐพล ได้กำชับกับ ต้องการเห็นทั้ง 2 ฝ่าย สมานฉันท์หารือกันได้ก็ขอให้คุยกัน เพราะมองว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องมีการยอมแลกบางสิ่ง เพื่อให้สามารถตกลงร่วมกันได้ และนักเรียนจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด
“จากบทเรียนของกรณีดังกล่าว ทำให้ สช. ต้องเดินหน้าพัฒนางานภายในในหลายเรื่อง เช่น การจัดเก็บตราสารเอกสาร การช่วยโรงเรียนตามความถูกต้อง เป็นต้น ดังนั้นคงต้องมีการหารือถึงเรื่องระบบการจัดเก็บเอกสารใหม่”รักษาราชการเลขาฯ กช.กล่าว
หลังจากนี้ คงต้องมาติดตามผลการเรียกร้องของกลุ่มองค์กร Save BCC ร่วมกับประชาคมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยต่อไป ว่าศธ. และองค์กรที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไร???