เร่งสรุปแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร รับผลกระทบยกเลิก 3 สาร ภายในสัปดาห์นี้
"เฉลิมชัย" เร่งสรุปแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร รับผลกระทบยกเลิก 3 สาร ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนแบนวันที่1ธ.ค.
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ของกระทรวงเกษตรฯ จะพิจารณาทุกมาตรการอย่างรอบคอบเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำข้อมูลมารายงานต่อที่ประชุม และกำหนดให้มาตรการต่างๆ ต้องเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 1 ธันวาคม นี้ซึ่งการยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดจะมีผลบังคับใช้
โดยจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมหาวิธีแก้ไขปัญหาได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลสารตกค้างในสินค้าเกษตรที่นำเข้าเนื่องจากวัตถุดิบหลายอย่างไทยนำเข้าจากประเทศที่ยังใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดอยู่นั้น กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมมาตรการรองรับกรณีที่ไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ด้วย
ส่วนกระทรวงพาณิชย์ จะช่วยดูแลไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสารป้องกันกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชชนิดอื่นที่เกษตรกรต้องใช้แทน รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการป้องกันการโฆษณาหลอกลวงขายสารชีวภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือปลอมปนสารเคมี
พร้อมกับหาสารชีวภัณฑ์ต่างๆ เมื่อผ่านทดสอบประสิทธิภาพแล้ว ใช้ได้ผลจริง ให้เปิดกว้างในการขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นทางเลือกของเกษตรกร นอกจากนี้เร่งศึกษาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรโดยเฉพาะผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิดได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพด และไม้ผล เมื่อไม่สามารถใช้พาราควอต-ไกลโฟเซตในการป้องกันกำจัดวัชพืช และคลอร์ไพริฟอส ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแล้ว จะต้องปรับเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรกรรม
เบื้องต้นเกษตรกรรายย่อยอาจต้องใช้แรงงานในการกำจัดวัชพืช ส่วนเกษตรกรที่รวมตัวเป็นแปลงใหญ่และสหกรณ์การเกษตรสามารถสนับสนุนให้ใช้เครื่องจักรกลการเกษตรได้ จากนั้นเมื่อเริ่มฤดูกาลผลิตใหม่ต้องเข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกรรายย่อยในการจัดรูปแปลงให้สามารถรองรับเครื่องจักรกลการเกษตรได้ สำหรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นต้องของบประมาณมาช่วยเหลือ
“มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาผลกระทบทุกด้านอย่างรอบคอบทั้งที่มีต่อเกษตรกร อุตสาหกรรมผลิตสินค้าเกษตรต่อเนื่อง และมาตรการสนับสนุนเกษตรกรที่ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ตลอดจนการติดตามเก็บสารเคมีทั้ง 3 ชนิดเพื่อทำลายตามหลักวิชาการให้มีความปลอดภัย”นายเฉลิมชัย กล่าว
ทั้งนี้ที่ผ่านมาในเว็บไซต์กรมวิชาการเกษตร ได้เปิดฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป ต่อร่าง ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่.. ) พ.ศ…. รับฟังถึงวันที่ 8 พ.ย.โดยการรับฟังดังกล่าวเป็นไปตามที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อ 22 ต.ค. ได้มีมติแบน 3 สารเคมีอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซส คลอร์ไพริฟอส ในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 และให้กรมวิชาการเกษตร มายกร่างประกาศและรับฟังความเห็นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาต่อไป
สำหรับร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่…) พ.ศ. … หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ปรับสถานะสารเคมี 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส จากบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ยกระดับเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ต้องห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย และครอบครอง ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 เมื่อร่างประกาศบังคับใช้ ได้กำหนดให้ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ตามประกาศนี้ที่ได้ดำเนินการก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันนับแต่ประกาศมีผลบังคับใช้