พรึ่บ! แต่งดำประท้วงอีกรอบ 'Save BCC' ไล่ผู้บริหารชุดใหม่
สมาคมศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบัน และสมาคมผู้ปกครอง กรุงเทพคริสเตียน แต่งดำประท้วง ไล่ผู้บริหารโรงเรียนชุดใหม่
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงเรียกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ได้มีกลุ่มศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน รวมทั้งกลุ่มผู้ปกครอง คณะครู-อาจารย์ รวมตัวกันในนามตัวแทนจากองค์กรปกป้องโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย หรือที่รู้จักในนาม Save BCC แสดงจุดยืนที่มีต่อแนวทางการบริหารจัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน สภาคริสตจักร และโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน-โบสถ์สืบสัมพันธวงศ์ ถนนศรีเวียง ในชื่อ "อารีย์รำลึก เราจะไม่ให้ใครมาทำร้ายโรงเรียนของเรา"
จากกรณีก่อนหน้านี้ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ถูกสั่งพักงาน จนกระทั่งถูกโยกย้ายให้พ้นจากหน้าที่ ซึ่งต่อมาได้มีการสอบสวนจากคณะกรรมการสภาคริสตจักรในประเทศไทย โดยภายหลังจึงได้มีคำสั่งให้ปลด นายศุภกิจ และไล่ออก นายวัชรพงษ์ พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนชุดใหม่ เข้ามาบริหารงานแทน
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ประกาศหยุดเรียน เป็นเวลา 1 วัน ซึ่งมีการให้เหตุผลว่ามีการชุมนุมกันภายในโรงเรียน และเพื่อเป็นการป้องกันสถานการณ์ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ความวุนวาย จึงได้มีการประกาศให้หยุดเรียนเป็นเวลา 1 วัน
สำหรับข้อเรียกร้องที่กลุ่ม Save BCC จัดการชุมนุมในวันนี้ เนื่องจากต้องการให้ประธานกรรมการบริหารโรงเรียนเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการหรือฝ่ายบริหารยังคงนิ่งเฉย และไม่มีปฎิบัติตามข้อเรียกร้องที่ได้มีการเสนอไป นอกจากนี้ ยังพบว่าประธานกรรมการบริหารโรงเรียนยังได้พยายามแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีมาตรฐานความรู้ด้านการบริหาร ไม่มีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาโรงเรียนไปสู่ความก้าวหน้าได้ มุ่งแต่งตั้งบุคลากรที่สนับสนุนฝ่ายตนเองเท่านั้น แสดงออกถึงการแบ่งพรรคแบ่งพวกอย่างชัดเจน และสร้างความเกลียดชัง เพื่อทำลายความสามัคคีระหว่างบุคคลากร ซึ่งไม่ควรเป็นแบบอย่างในโรงเรียนอย่างยิ่ง รวมถึงพยายามข่มขวัญครู นักเรียนที่ไม่พอใจให้ลาออก เพื่อจะรับคนใหม่ที่สามารถควบคุมได้มาทดแทน ดังนั้น จึงอยากให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ ในการตรวจสอบเรื่องการนำเงินของโรงเรียนไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์อีกด้วย