ภาษาและทักษะชีวิต สิ่งจำเป็นต้องสอนตั้งแต่เด็ก
การศึกษาปฐมวัยในไทยมีอยู่ 2 แนวทางใหญ่ ให้พ่อแม่ผู้ปกครองเลือกส่งลูกไปเรียน ได้แก่ "แนววิชาการ" ซึ่งเน้นเนื้อหาสาระเพื่อเตรียมความพร้อมเข้า ร.ร.ที่มีชื่อเสียงในชั้น ป. 1 ส่วน "แนวบูรณาการ" จะเน้นเรื่องเตรียมความพร้อม และทักษะชีวิต
เด็กที่อยู่ในวัยอนุบาลนั้นจะเรียนรู้ได้ดีผ่านกิจกรรมการเล่นที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น พ่อแม่จึงต้องเลือกโรงเรียนที่มีครูดูแลได้ทั่วถึงและผู้สอนเรียนจบด้านเด็กปฐมวัยมาโดยตรง มีกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ตามช่วงวัย เช่น ควรมีกิจกรรมให้เด็กได้ออกกำลังกายเพื่อเสริมให้กล้ามเนื้อแข็งแรง มีความยืดหยุ่นและฝึกการทรงตัว
รวมทั้งมีการจัดการด้านโภชนาการที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเด็กควบคู่กันไปด้วยด้านที่ 2 คือ การเสริมสร้างพัฒนาการ ควรมีกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะด้านภาษา กล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และทักษะด้านสังคม เช่น การวางแผน การทำตามกฎ การแบ่งปัน รวมทั้งการเล่นหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เป็นต้น
- ฮัมมิ่งเบิร์ด”เปิด EYFS อังกฤษ พัฒนาศักยภาพคู่ทักษะสมองส่วน EF
อารยา ทองใบ ผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด ย่านตลิ่งชัน( Hummingbird International Kindergarten (HBIS) เล่าว่าจากประสบการณ์การทำงานและการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของมนุษย์อย่างลึกซึ้งทำให้พบว่า ช่วงพัฒนาการที่สำคัญที่สุดของมนุษย์คือ ช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเปรียบเสมือนกับรากฐานของบ้าน หากฐานไม่มั่นคงแล้ว ทำอย่างไรบ้านก็ไม่มีทางแข็งแรง
"จึงได้นำหลักสูตร Early Years Foundation Stage (EYFS) จากประเทศอังกฤษ ที่เน้นพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนผ่านกิจกรรมการเล่น ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเด็กวัยปฐมวัย มาใช้ควบคู่กับการมุ่งพัฒนาสมองส่วน EF (Executive Functions) ด้วยการจัดการเรียนรู้ด้วยวินัยเชิงบวก ที่โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ดที่เปิดดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา"
ผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด เชื่อมั่นในศักยภาพที่ไม่สิ้นสุดของเด็กทุกคน (Endless Possibilities) จึงเลือกสรรหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนที่จะช่วยพัฒนาตัวตนและศักยภาพของเด็กได้อย่างเต็มที่บนพื้นฐานของอารมณ์ที่มั่นคง ด้วยหลักสูตร Early Years Foundation Stage (EYFS) จากประเทศอังกฤษควบคู่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Functions (EF) คือ ความสามารถระดับสูงของสมองที่ใช้ในการควบคุมความคิด อารมณ์ และการกระทำ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย” โดยสมองส่วน EF นี้จะพัฒนาได้มากที่สุดในช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 7 ปี
ทั้งนี้ งานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ พบว่าการพัฒนาและการทำงานของสมองส่วน EF มีผลต่อความสำเร็จในชีวิตทั้งการงาน การเรียนและการใช้ชีวิต โดยมีการจัดการเรียนการสอนภายใต้แนวคิด “101s เทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวก” (101s Positive Discipline) ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับการพัฒนาสมอง เน้นการจัดประสบการณ์และสื่อสารกับเด็กเล็กที่ส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมเพื่อกระตุ้นพัฒนาการสมองด้านกระบวนการคิดและการปลูกฝังพฤติกรรมที่เหมาะสม เปิดสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาลและอนุบาล อายุ 18 เดือน ถึง 5 ปี ศึกษาข้อมูลได้ที่ www.hummingbird.ac.th
- เด่นหล้าเปิด3ภาษาสนองพ่อแม่4.0
อย่างไรก็ตามแนวโน้มด้านทักษะของเด็กในอนาคตและยุค 4.0 จะต้องเป็น Global Citizen ทักษะด้านภาษาอังกฤษ และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้แบบนานาชาติ ทั้งนี้ทักษะของเด็กในศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญประกอบ 4 Cs ดังนี้ 1.Communication ทักษะด้านการสื่อสารที่ดี เป็นการสื่อสารได้หลากหลายภาษาที่จำเป็นในการสื่อสารในระดับโลก 2.Collaboration การทำงานเป็นทีมได้ และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี การเข้าสังคม 3.Critical thinking การคิดเชิงวิพากษ์ โดยสามารถใช้ทักษะในการคิดวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้กับปัญหาได้เป็นอย่างดีและ 4.Creativity คือต้องมีการคิดสร้างสรรค์
โรงเรียนเด่นหล้า ฝ่ายประถม จึงได้เปิดหลักสูตรEnglish Programme (EP) 3 ภาษา ผสมผสานระหว่าง ไทย อเมริกา และอังกฤษ นำข้อดีของแต่ละหลักสูตรมารวมกันจึงเกิดเป็น Denla Primary School (DLPS) มีความเข้มข้นด้านคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ ภาษา และเทคโนโลยี เน้นการลงมือปฏิบัติการค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตนเอง ควบคู่กับการเรียนเชิงทฤษฎี เข้าใจในสิ่งที่เรียน มีองค์ความรู้ความเข้าใจลึกซึ้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ในอนาคต
เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารโรงเรียนเด่นหล้า ฝ่ายประถม 3 ภาษา (Denla Primary School :DLPS) อธิบายว่า นอกเหนือจากวิชาการแล้ว รร.ยังเชื่อว่าทักษะในอนาคต หรือ 21st Century Skillsมีความสำคัญที่จะต้องปลูกฝังแก่นักเรียนตั้งแต่ยังเล็ก โรงเรียนเด่นหล้า ฝ่ายประถม (EP)จึงมีการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการสร้างพัฒนาด้านสังคม อารมณ์ และจิตใจ
โดยมีการจัดเตรียมวิชาEssential Skillsซึ่งประกอบไปด้วย การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ,การทำงานร่วมกับผู้อื่นและความเป็นผู้นำ (Collaboration and Leading by Influence)การปรับตัวและความคล่องแคล่วว่องไว (Agility and Adaptability)ความคิดริเริ่มและการเป็นผู้ประกอบการ (Initiative and Entrepreneurialism)การสื่อสารด้วยการพูดและการเขียนที่มีประสิทธิภาพ (Good Oral and Written Communication)การเข้าถึงข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล (Accessing and Analyzing Information)และความไฝ่รู้และจินตนาการ (Curiosity and Imagination)
สำหรับเด็กที่เรียนหากเรียนจบสามารถเรียนระดับมหาวิทยาลัยในประเทศหรือต่างประเทศได้ แต่หากเป็นหลักสูตรนานาชาติทางเลือกอาจจะต้องไปเรียนต่างประเทศเป็นหลัก ดังนั้นการเลือกเรียนในหลักสูตร EP เหมาะกับเด็กไทย ที่ยังได้ทักษะภาษาอังกฤษและการผสมผสานกับวิชาการด้วย เป็นหลักสูตรที่ผสมผสานระหว่าง ไทยอเมริกา และอังกฤษ โดยนำข้อดีของแต่ละหลักสูตรมารวมกันนั่นเอง