เปิดวิธีรับมือ 'ไวรัสโคโรน่า' สำหรับแท็กซี่ ทำอย่างไรให้ปลอดภัย?

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ "ไวรัสโคโรน่า" ในประเทศจีนลุกลามเป็นวงกว้าง พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในประเทศไทยนั้นพบคนไทยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน คนไทยรายนี้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต่อมาคนขับแท็กซี่รู้ตัวว่ามีอาการป่วยเลยหยุดงาน ก่อนพบว่าตนติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ถือเป็นการติดเชื้อจาก “คนสู่คน” เป็นเคสแรกในประเทศไทย 

ก่อนหน้านี้แพทย์ชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้ซึ่งประกอบอาชีพขับแท็กซี่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า เนื่องจากได้ขับรถไปรับผู้โดยสารชาวจีนจากสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีอาการป่วย เรื่องดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้ประกอบการแท็กซี่รายอื่นๆ อย่างมาก เพราะกลายเป็นหนึ่งในอาชีพเสี่ยงที่อาจได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ หากไม่ป้องกันตนเองให้รัดกุมดีพอ รวมถึงผู้โดยสารเองก็เริ่มหลีกเลี่ยงการใช้บริการแท็กซี่ ทำให้คนขับแท็กซี่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม

ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขโดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ได้ออกมาชี้แจงแนะนำคนขับแท็กซี่ (2 ก.พ. 2563) ถึงวิธีการดูแลตัวเองและทำความสะอาดรถอย่างง่าย อันดับแรกคนขับแท็กซี่ต้องมีหน้ากากอนามัยที่เป็นของตัวเอง และมีหน้ากากอนามัยเผื่อไว้ให้ผู้โดยสาร และการล้างมือบ่อยๆ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ทำงานในสายอาชีพด้านการโดยสารสาธารณะไม่ควรลืม

ส่วนวิธีทำความสะอาดรถง่ายๆ ที่แพทย์แนะนำ คือ การเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ การทำความสะอาดเบาะที่เป็นพลาสติก โดยเช็ดด้วยน้ำเปล่าที่ผสมสบู่และเช็ดน้ำเปล่าอีกครั้ง ส่วนกรณีเจอผู้โดยสารที่มีอาการป่วย เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก ควรใช้แอลกอฮอล์ 70% ทำความสะอาดเบาะที่นั่ง อีกอย่างหนึ่งคือการทำความสะอาดด้วยสารสารละลายคลอรีนผสมน้ำ อาจเหมาะกับสหกรณ์แท็กซี่ที่มีพื้นที่เช็ดล้าง

นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้นเมื่อเวลาพักเที่ยง ควรเปิดประตูหน้าต่างรถไว้เพื่อระบายอากาศ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ควรทำเพราะทำให้เชื้อไวรัสโคโรน่าตายได้ เนื่องจากบ้านเราแดดร้อนและเชื้อไวรัสจะไม่ชอบพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง 

หากในระหว่างขับรถมีผู้โดยสารมีอาการไอ จาม ให้ปิดแอร์ทันทีแล้วเปิดหน้าต่างระบายอากาศ ให้ลมเข้าด้านออกด้านหลัง เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสสะสมอยู่ในรถ ลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าของคนขับแท็กซี่เองและผู้โดยสารท่านอื่น

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก ยังได้ออกมาเชิญชวนผู้ขับรถแท็กซี่เข้ารับการตรวจร่างกายเบื้องต้น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เอกซเรย์ปอด ทดสอบการมองเห็นระยะไกล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความตระหนักในการป้องกัน ควบคุมโรค ลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ สร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้ผู้ขับรถแท็กซี่และผู้โดยสาร เฝ้าระวังป้องกันโรคและภัยสุขภาพ ภายในวันที่ 12 - 13 ก.พ.นี้