เช็คเลย! เงินเยียวยา 3,000 บาท ผู้รับเงินอุดหนุนบุตร-บัตรคนจน-กลุ่มเปราะบาง ได้เงินวันไหน?
สรุปชัด เงินเยียวยา 3,000 บาท กลุ่มผู้รับเงินอุดหนุนบุตร กลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรคนจน รับแน่ พร้อมกันทุกกลุ่ม 20 ก.ค.นี้
ชัดเจนแล้วสำหรับมาตรการมาตรการจ่าย "เงินเยียวยา" ช่วยเหลือเพิ่มเติมตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 "กลุ่มเปราะบาง" ประกอบด้วย เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้พิการ รวมถึงกลุ่ม "ผู้ถือบัตรสวัสดิการ" หรือ บัตรคนจน ที่จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาท แบ่งเป็น 1,000 บาท 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563
หลังจากก่อนหน้านี้เกิดประเด็นคำถามว่า การแจกเงินช่วยเหลือจะได้รับเมื่อใด เดือนมิถุนายน 2563 หรือเดือนกรกฎาคม 2563 กันแน่
ล่าสุด "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ผ่าน สายด่วน พม.1300 ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า การจ่ายเงินเยียวยากลุ่มอุดหนุนเด็กแรกเกิด-6 ปี รวมถึงผู้พิการ และผู้สูงอายุนั้น จะจ่ายรวดเดียวทุกกลุ่ม ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 เป็นจำนวน 3,000 บาท
ซึ่งหมายความว่า การจ่ายเงินนั้นจะจ่ายให้กับเดือนกรกฎาคม 1,000 บาท และจ่ายย้อนหลังให้ 2 เดือน คือ พฤษภาคม และมิถุนายน อีก 2,000 บาท รวมแล้วในวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 จะได้รับเงินทั้งหมด 3,000 บาท
ย้ำกันอีกครั้ง ว่า การจ่ายเงินจะยึดตามข้อมูลที่อัพเดทภายในเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งไม่ต้องลงทะเบียนใหม่แต่อย่างใด แต่ผู้ที่จะมีสิทธิได้รับเงินจากทั้ง 3 กลุ่ม จะต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะจัดสรรเงินเยียวยาตามฐานข้อมูลที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องลงทะเบียนใหม่เพื่อขอรับสิทธิช่วยเหลือเยียวยาตามมาตรการนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับช่องทางการรับเงินเยียวยานั้น จะเป็นช่องทางเดียวกับที่ได้รับเงินอุดหนุนและเบี้ยยังชีพที่เป็นรายเดือนอยู่แล้ว แยกเป็น 2 กรณี คือ
- หากเคยรับเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคาร เงินเยียวยาครั้งนี้จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เคยได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เพิ่มเติมจากเบี้ยผู้สูงอายุ หรือเพิ่มเติมจากคนพิการ
- หากไม่มีบัญชีธนาคาร หรือไม่ได้รับเงินผ่านบัญชีธนาคารตั้งแต่แรก จะเป็นการไปรับเงินเยียวยาที่เป็นเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร 1300 ตลอด 24 ชม.