DPU เสริมแกร่ง 'ระบบ หลักสูตร เน็ตเวิร์คกิ้ง' รับมือความเปลี่ยนแปลง
DPU เสริมแกร่งรับมือความท้าทาย การระบาดโควิด-19 เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และการเตรียมคน ให้พร้อมตอบโจทย์อุตสาหกรรมในอนาคต เดินหน้าพัฒนาทุกมิติ ตั้งเป้า ก้าวสู่การเป็นสถาบันการศึกษาแห่งอนาคต
ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยถึงการทำงานภายหลังเข้ามารับหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการบริหารงาน DPU ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและการดำเนินต่อเนื่องไปในอนาคตเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้าน จากที่มีการพัฒนาและปรับระบบงานต่าง ๆ ถึงวันนี้เราพร้อมมาก ๆ ทั้งเรื่องการบริหารจัดการภายในที่ทำมาหลายปี และแล้วเสร็จในปีนี้ การปรับหลักสูตรให้สอดรับกับการเรียนการสอนที่เปลี่ยนไป รวมถึงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนด้านการศึกษาในภาพรวม โดยแนวทางการพัฒนา DPU มุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก คือ ระบบ หลักสูตรและพัฒนาคน และเน็ตเวิร์คกิ้ง
ด้านการพัฒนาระบบ ที่ผ่านมาดำเนินการใน 3 การทำงานที่ถือเป็นหัวใจของมหาวิทยาลัย เริ่มตั้งแต่ ระบบงานด้านการเงินเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิม Student Life Cycle Management หรือ SLCM ระบบงานการบริหารและข้อมูลนักศึกษาที่จะสามารถดูแลตั้งแต่เริ่มสมัคร ระหว่างเรียน ไปถึงจบการศึกษา และสุดท้ายระบบการบริหารและพัฒนาบุคลากร
“จากระบบทั้ง 3 ส่วนที่ได้พัฒนา เรามีความพร้อมมาก ๆ ในการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้เรียน โดยเฉพาะด้านออนไลน์”
อีกแนวทางการพัฒนาที่ DPU ดำเนินการไปแล้วกับ “หลักสูตร” ที่เรียกว่า DPU Core ที่เป็นเอกลักษณ์และบ่งบอกถึงตัวตนของนักศึกษาที่ผ่านกระบวนการเรียนการสอนจากที่นี่ไป และกำลังเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจวันนี้และในอนาคต โดย DPU Core ประกอบด้วย 6 ทักษะที่จำเป็นต้องมีสำหรับโลกอนาคต ประกอบด้วย 1. ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ กระบวนการคิดและแก้ปัญหาทางธุรกิจที่เกิดขึ้น 2. ทักษะด้านการสื่อสาร มีทักษะในการเจรจาและสื่อสารในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ให้ผู้ฟังเข้าใจ 3.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 4.ทักษะการมีความคิดสร้างสรรค์ 5.ทักษะการทำงานเป็นทีม ต้องรู้จักการทำงานและประสานงานร่วมกับผู้อื่น และ 6.ทักษะด้านเทคโนโลยี รู้จักเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเลือกที่นำมาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“นักศึกษาที่ผ่าน DPU Core จะมีทักษะและมุมมองที่แตกต่างออกไป ด้วยการเรียนในแบบโมดูล (Module) สร้างโอกาสการเรียนรู้ และบูรณาการความรู้จากกลุ่มวิชาที่เลือกเรียนได้ตามที่ต้องการ ซึ่งนักศึกษาสามารถนำไปใช้การประกอบอาชีพได้ทั้งในระหว่างเรียนและเมื่อจบการศึกษา”
ในเรื่องของการจัดการเรียนการสอน ดร.ดาริกา กล่าวว่า DPU เน้นการเรียนที่เป็น Hybrid Education เป็นการผสมผสาน ระหว่างการเรียนแบบออนไลน์ และในห้องเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ต้องปรับตัวเป็นเรียนออนไลน์ 100% ซึ่งทั้งอาจารย์และนักศึกษาทำได้ดีไม่มีสะดุด เพราะได้มีการเตรียมการไปก่อนหน้านี้แล้ว
“ตอนนี้ DPU สามารถเรียน Hybrid ออนไลน์ได้แล้ว 100% ในปีการศึกษา 2564 แต่ก็มีบางวิชาที่ไม่ได้เป็น 100% ทั้งหมดเพราะต้องมีการพบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งอาจารย์ผู้สอนจะทำการออกแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสม และสอดรับกับการเรียนรู้ในแต่ละวิชา เพื่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Outcome Base Education"
สุดท้ายเป็นเรื่องของ “เน็ตเวิร์คกิ้ง” การผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ภายนอกเพื่อให้เกิดการพัฒนาและขับเคลื่อนการศึกษาทั้งระบบ
“DPU ได้ร่วมทำงานกับหลายภาคส่วน เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาคนให้เป็น Future Workforce ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการก้าวไปเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและแข่งขันได้ในอนาคต”
ดร.ดาริกา กล่าวถึงภาพรวมของการพัฒนาที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ในระบบการศึกษาของภาคเอกชนมีคนรุ่นใหม่เข้าเป็นนักศึกษาประมาณ 2 แสนคน ทำอย่างไรจะพัฒนาขีดความสามารถและทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับคนกลุ่มนี้เพื่อก้าวไปเป็นกำลังหลักในภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอี หากสามารถทำได้จริงจะส่งผลรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมได้ในเรื่องดังกล่าว โดยในส่วนของ DPU ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องได้แก่ DPU Core รวมถึง แนวคิด Work Integrated Learning หรือ WIL การทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยกับสถานประกอบการ ขณะเดียวกันก็เร่งทำงานผสานกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ จากหน่วยงานภายนอก โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐเพื่อผลักดันศักยภาพของคนในวัยกำลังศึกษาให้มากขึ้นกว่าเดิม
"การรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่ DPU เลือกทำคือการเตรียมความพร้อม ปรับตัวเร็ว และเลือกอนาคตที่อยากเป็นไว้ชัดเจนแล้วกับการเป็นสถาบันการศึกษาที่สร้างผู้ประกอบการแห่งอนาคตและมุ่งมั่นสร้างคนให้เป็นมืออาชีพในทุกศาสตร์ของการทำงานยุคใหม่" ดร.ดาริกา กล่าว