ศบค.ปรับแผนฉีด 'วัคซีนโควิด' ก.ค.64 รวม 10.3 ล้านโดส

ศบค.ปรับแผนฉีด 'วัคซีนโควิด' ก.ค.64 รวม 10.3 ล้านโดส

ศบค. ได้ปรับแผนการให้บริการ "วัคซีนโควิด" ในประเทศไทยช่วงเดือน ก.ค. 2564 รวม 10.3 ล้านโดส เพื่อรองรับนโยบาย "เปิดประเทศ" ภายใน 120 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 มิ.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกหนังสือราชการ ด่วนที่สุด! ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องการปรับแผนการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เดือน กรกฎาคม 2564 โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้เสนอแผนฯ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  • หลักการในการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศไทย

- เป้าหมาย คือ การให้คนไทยได้รับการฉีวัคนป้องกันโรคโควิด - 19 โดยไม่คิดมูลค่าด้วยความสมัครใจ และได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 50,000,000 คน ภายในเดือนตุลาคม 2564 เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน รวมทั้งจัดหาวัคชีนโควิดป้องกันโรคโควิด - 19

- วัตถุประสงค์ เพื่อการปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ การลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตใน ประชากรกลุ่มเสี่ยง และการเปิดประเทศโดยเร็วเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

162442770910

  • การจัดสรร "วัคซีนโควิด" ในช่วง มิ.ย.64 ที่ผ่านมา

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศไทย ได้จัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งหมด 8,500,000 โดส ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564 มีผู้ใด้รับวัคซีนโควิดรายใหม่ จำนวน 215,885 ราย จำแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 137,776 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 78,109 ราย

โดยมีจำนวนยอดสะสมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 17 มิถุนายน 2564 รวมทั้งสิ้น 7,219,668 ราย จำแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 5,252,531 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 1,967137 ราย

  • ปรับแผนฉีด "วัคซีนโควิด" ก.ค.64 ก่อนเปิดประเทศ

ทั้งนี้ มีการร่างเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัด ปรับแผนใหม่สำหรับการปูพรมฉีดวัคซีนในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยมีเป้าหมายให้บริการฉีดวัคซีนจำนวน 10,000,000 โดส ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยแบ่งเป็น

  • พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ที่ได้จองวัคซีนล่วงหน้าในระบบ "หมอพร้อม" (ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง)
  • พิจารณาให้กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างน้อย 5,000,000 โดส ภายในเดือนกรกฏาคม 2564
  • พิจารณาให้ภูเก็ตได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือนกรกฏาคม 2564

162442771442

  •  แผนการจัดหา "วัคซีนโควิด" จำนวน 150,000,000 โดส ของประเทศไทย

1. ขณะนี้ประเทศไทยมีการจัดหาหรือดำเนินการเจรจาจองวัคชีนแล้ว 105,500,000 โดส

  • วัคซีน AstraZeneca จำนวน 61,000,000 โดส
  • วัคซีน Sinovac จำนวน 19,500,000 โดส
  • วัคซีน Pfizer จำนวน 20,000,000 โดส
  • วัคซีน Johnson & Johnson จำนวน 5,000,000 โดส

2. เสนอเพิ่มกรอบการจัดหาวัคซีนจาก 100,000,000 โดส ภายในปี 2564 เป็น 150,000,000 โดส ภายในปี 2565

3. วัคชีนที่จัดหามาเพิ่มเติมนั้น เพื่อรับรองกรณีที่ต้องมีการเพิ่มความครอบคลุมการได้รับวัคซีน เพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้วัคซีน เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค หรือกรณีอื่นใดที่ต้องมีการใช้วัคซีนเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขึ้นกับผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน และสถานการณ์ของเชื้อกลายพันธุ์

  • สถานะการขึ้นทะเบียน "วัคซีนโควิด" ในประเทศไทย

- AstraZeneca  ได้รับอนุมัติและขึ้นทะเบียน 20 ม.ค. 2564

- Sinovac  ได้รับอนุมัติและขึ้นทะเบียน 22 ก.พ. 2564

- Johnson & Johnson  ได้รับอนุมัติและขึ้นทะเบียน 25 มี.ค. 2564

- Moderna  ได้รับอนุมัติและขึ้นทะเบียน 13 พ.ค. 2564

- Sinopharm ได้รับอนุมัติและขึ้นทะเบียน 28 พ.ค. 2564

- Pfizer / Sputnik V / Biotech /Covaxin อยู่ระหว่างขึ้นทะเบียน

162442771289

  • สรุปผลที่ประชุม ศบค. และข้อคิดเห็น

จากรายงานข้างต้นทั้งหมด นำมาสู่การแสดงความคิดเห็นของที่ประชุม ศบค. ดังนี้

1. การจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในแต่ละจังหวัด ควรมีการจำแนกกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน อาทิเช่น วัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นประชาชนทั่วไป วัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคมตาม มาตรา 33 เป็นต้น

2. ควรเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ  เพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ (Cluster) ในโรงงานหรือสถานประกอบการ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรมและภาคการส่งออกของประเทศ

3. ควรพิจารณาการจัดสรรวัคซีนเพิ่มติม ให้กับพื้นที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออก เช่น เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี เกาะช้างและเกาะกูด จังหวัดตราด เป็นต้น ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ

รวมทั้งควรจัดสรรวัคซีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น จังหวัดจันทบุรี สระแก้ว เป็นต้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากแรงงานต่างด้าว

  • มติที่ประชุม ศบค. ล่าสุด!

จากผลสรุปและข้อคิดเห็นข้างต้น นำมาสู่มติที่ประชุม ศบค. ดังนี้

1. เห็นชอบหลักการและแผนการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เดือนกรกฎาคม 2564 ตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอ

2. เห็นชอบแผนการจัดหา/จัดซื้อ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ครบ จำนวน 150,000,000 โดส เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนและกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมทั้งรองรับการใช้วัคซีนเพื่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค หรือกรณีอื่นใดที่ต้องมีการใช้วัคซีนเพิ่มเติม

162442771617