เตือนแพทย์-คลินิกฉีดวัคซีนโควิด-19เถื่อน ผิดกฎหมาย สั่งปิดไม่อะลุ่มอล่วย

จากกรณีที่มีการลักลอบนำเข้าและฉีดวัคซีนโควิด-19เถื่อน เป็นวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในคลินิกเอกชน พื้นที่จ.สระแก้ว ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.)สั่งการให้จ.สระแก้วตรวจสอบหาผู้กระทำผิดทั้งผู้ฉีดและผู้นำเข้า เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะได้ฉีดวัคซีนปลอมหรือวัคซีนที่เสื่อมคุณภาพ จากการจัดเก็บที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วัคซีนที่ลักลอบเข้ามาคือขนของผิดกฎหมาย ตั้งใจทำผิดกฎหมาย เป็นเรื่องของตำรวจ ไม่ใช่เรื่องของระบบสาธารณสุข ไม่มีอะไรกระทบกับระบบการสาธารณสุขอย่างเด็ดขาด เหมือนแอบเอาของหนีภาษี แอบเอาของเถื่อนเข้ามา ก็ต้องเตือนว่า คลินิกที่อยู่ดีๆ ใครถือขวดวัคซีนมาแล้วไปฉีดให้เขา ผิดกฎหมาย และเสี่ยงถูกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กองประกอบโรคศิลปะปิดแน่นอน ไม่มีอะลุ่มอล่วย

"ส่วนคนที่ใครแอบขายมาหรือหลอกมา วัคซีนโควิดไม่มีขายตามท้องตลาด และเป็นวัคซีนที่ถือมาไม่มีทางฉีดได้ตามมาตรฐาน เพราะต้องถูกเก็บในระบบความเย็นภายใต้การมอนิเตอร์ตลอดเวลา วัคซีนไฟเซอร์เขาติดจีพีเอสเลยว่าอยู่ที่ไหน และอยู่ในอุณหภูมิที่เท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ถ้าไปถือจากที่ไหนมา ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำแล้ว ถ้าคนที่ถือเข้ามาทำด้วยพลการ ไม่เข้าใจก็พอพูดกันได้ แต่ถ้าคิดว่าเอาเข้ามาเพื่อฉีดก่อนคนอื่นเป็นการคิดที่ผิดอย่างมหันต์ สำคัญคือคนให้บริการ แพทย์ พยาบาล คลินิก รพ.ต่างๆ ต้องไม่ให้บริการเพราะมีความผิด" นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่ผู้ประกอบการ จ.สระแก้ว เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องแอบนำวัคซีนจอห์นสันฯ มาฉีดให้แรงงานข้ามชาติ เนื่องจาก ประเทศไทยไม่ยอมให้ทางการกัมพูชา เข้ามาฉีดวัคซีนให้คนกัมพูชาในไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานเรื่องการขอฉีดวัคซีนให้ชาวกัมพูชาในประเทศไทย แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุของการนำวัคซีนเข้ามาเอง แล้วให้คลินิกฉีดให้ จะอ้างอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ประเทศไทยฉีดกว่า 85 ล้านโดสซึ่งฉีดให้คนทุกคนในประเทศไทยตามระบบ แต่หากอยู่ในประเทศไทยแต่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของไทย จะมาอ้างเหตุผลไม่ได้

“ยิ่งแบ่งขวดมาฉีดกัน ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เพราะอย่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ฉีด 1 ขวดได้ 12 เข็มเราต้องหาคนฉีดให้ครบ ไปแบ่งแบบนี้ยิ่งไม่ได้ ยิ่งสอบสวนไปเยอะ เดี๋ยวจะยิ่งเจอความผิดที่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ หากทางการประเทศใด ต้องการนำมาฉีดให้คนในประเทศของเขา ก็ต้องขอมายังกรมควบคุมโรค ที่ผ่านมาประเทศอื่นก็มาขออนุญาตนำเข้ามาฉีดได้ ” นายอนุทิน กล่าว