ทางเลือกคนจอง"โมเดอร์นา"แต่ยังไม่ได้ เปิดฉีดฟรี! ที่สถานีกลางบางซื่อ

  เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิด 19 ของไฟเซอร์ จำนวน 30 ล้านโดส สำหรับปี 2565 ระหว่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนางสาวเด็บบราห์ ไซเฟิร์ท ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ประเทศไทย และอินโดไชน่าว่า ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 คาดว่าจะฉีดครบ 100 ล้านโดสในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ขณะนี้ฉีดแล้ว 47 ล้านคน ยังมีที่ไม่ได้ฉีดอีกประมาณ 3 ล้านคน จึงได้มีการเร่งให้ทุกแห่งฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และขยายการฉีดให้แรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนและยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน

   นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 มี  2 ประเภทหลัก คือ

1.เข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารจริงๆ ก็ได้ให้กระทรวงสำรวจทั่วประเทศ และนำวัคซีนไปฉีดให้

2.ผู้ที่รอวัคซีน  โดยเฉพาะคนที่จองวัคซีนทางเลือกไว้

ถ้าหากรพ.ที่จองไว้ไม่สามารถกำหนดเวลาให้ได้ว่าจะได้รับเมื่อไหร่ ก็ขอย้ำว่าให้มารับวัคซีนจากรัฐก่อน อย่ารอ ซึ่งได้มอบหมายสธ.ในการให้บริการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาหรือไฟเซอร์กับผู้ที่จองวัคซีนทางเลือกไว้แต่ยังไม่ได้ฉีดโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดเข็ม 1 โดยเปิดให้เข้าฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ สถาบันบำราศนราดูร และรพ.ศรีธัญญา ทั้งนี้เชื่อว่าคนที่จองวัคซีนทางเลือกส่วนใหญ่จะอยู่ในกทม. ส่วนในต่างจังหวัด ได้มอบหมายสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) สำรวจและจัดส่งไปสำรองอย่างเร็ว

     นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดสจะทยอยส่งมอบตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี  2565 ภายใต้เงื่อนไขอาจเพิ่มสั่งซื้อได้อีก 20 ล้านโดส และเป็นวัคซีนรุ่นใหม่ที่จะครอบคลุมการให้วัคซีนในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีได้ ซึ่งประเทศไทยมีประมาณ 6 ล้านคนด้วย ทั้งนี้  วัคซีนไฟเซอร์สำหรับปีหน้าจะเป็นการฉีดบูสเตอร์โดส เพราะฉะนั้น 30 ล้านโดสก็จะครอบคลุม 30 ล้านคน และก่อนหน้านี้มีการลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว 60 ล้านโดส  นอกจากนี้ มีแผนจะจัดหาวัคซีนชนิดโปรตีนเบสยูนิตหากวิจัยสำเร็จอีก 20 ล้านโดสด้วย   

       ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เบื้องต้นวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดสสำหรับปี 2565 จะนำฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปี จำนวน 10 ล้านโดส ภายหลังจากการขึ้นทะเบียนขยายอายุการฉีดกับสำนักงานคณะกรรมการอาการและยา(อย.)แล้ว ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเป็นวัคซีนสูตรใหม่ที่นำมาใช้โดยไม่ต้องผสมน้ำเกลือ