GTH เดินหน้าตลาด "กัญชง" เปิดธุรกิจแฟรนไชส์ ตั้งเป้า 1,000 สาขาใน 3 ปี
GTH เดินหน้ารุกตลาด "กัญชง" ประเดิมเปิดแฟรนไชส์ “HEMP HOUSE” จำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มและอาหารที่ใช้พืช ตั้งเป้าปี 65 มีแฟรนไชส์ 300 สาขา และแตะ 1,000 สาขา ใน 3 ปี
จากบทวิเคราะห์ วิจัยกรุงศรี เรื่อง "กัญชง พืชเศรษฐกิจใหม่ โอกาสและความท้าทาย" โดยได้ มีการประมาณการมูลค่าอุตสาหกรรมกัญชงของไทย พิจารณาจากมูลค่าของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่มีศักยภาพในการนำกัญชงไปใช้ เพื่อเป็นฐานในการประเมิน ร่วมกับสัดส่วนกัญชงที่คาดว่าจะถูกนำไปใช้ในแต่ละอุตสาหกรรม
มีการประเมิน ปี 2564 คาดว่า อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีกัญชงผสมจะมีมูลค่า 280 ล้านบาท รองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจากกัญชง 240 ล้านบาท ยาและอาหารเสริมจากกัญชง 50 ล้านบาท เครื่องแต่งกายที่ทำด้วยใยกัญชง 30 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลประเมินว่ายังอยู่ในช่วงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลักในปีแรก ทั้งนี้ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีการนำกัญชงไปใช้มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท
คาดว่า ผลิตภัณฑ์ กัญชง ไทยจะเติบโตอย่างมากในช่วง 5 ปีแรกหลังรัฐปลดล็อคการประกอบธุรกิจ โดยตลาดกัญชงไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 15,770 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 126% ต่อปี
ล่าสุด บริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด หรือ GTH เดินหน้าตลาดกัญชง เปิดตัว Hemp House รูปแบบ ธุรกิจแฟรนไชส์ ชูจุดเด่น Healthy Plants ร้านไลฟ์สไตล์คาเฟ่ พร้อมจำหน่ายสินค้า เครื่องดื่ม และอาหารที่ใช้พืช ผสานกับอรรถรสและคุณประโยชน์ของกัญชงที่ปลูกและสกัดเอง โดยความร่วมมือวิจัยกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวนกว่า 50 ไร่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันกัญชง เทอพีนหรือ CBD จะถูกนำมาพัฒนาต่อยอดและจำหน่ายผ่านร้าน HEMP HOUSE
จุลภาส (ทอม) เครือโสภณ Chairman บริษัท GTH “Golden Triangle Health” จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจกัญชงของไทยส่วนใหญ่คนคิดเรื่องต้นน้ำ หลายคนอยากปลูก และหลายคนพูดเรื่องสกัด แต่หากคุณปลูก สกัด คุณจะขายให้ใคร ดังนั้น Hemp House จึงเปิดขึ้นมา เพื่อให้คนที่มีสินค้ากัญชงและต้องการมาขาย ถือเป็นที่จัดจำหน่ายสินค้ากัญชง โดยคนที่เป็นแฟรนไชส์ จะได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ได้สินค้าที่ไม่ขาดตลาด และได้ช่องทางประชาสัมพันธ์
"เป้าหมาย คือ สร้างให้ร้านเป็นมาเก็ตเพลสสำหรับกัญชา และ กัญชง โดยในร้านจะมีสินค้าของบริษัทผลิตเองไม่เกิน 20% เพราะเรามองเห็นอนาคตว่าคนจะผลิตสินค้าออกมาเยอะ เขาจะไปขายที่ไหน ? เราจะเป็นตัวกลาง จะเป็นสตาร์บัคส์ ของธุรกิจกัญชงของไทย"
"ถ้าคนผลิตสินค้า แล้วเขาไม่มีที่ขายก็เป็นปัญหา แต่ที่ที่ขาย คิดเขาแพงเกินไป เขาก็อยู่ไม่ได้ เรามองว่าเราต้องเป็นสถานที่ที่ให้เขามีโอกาสมาขาย โดยข้อกำหนดของสินค้าที่จะวางขาย คือ ต้องผ่าน อย. และ ต้องถูกกฎหมาย อุตสาหกรรมนี้จะเป็น S-Curve ใหม่ของเมืองไทย "
- ตั้งเป้า 1,000 สาขา ใน 3 ปี
สำหรับ รูปแบบ ธุรกิจแฟรนไชส์ HEMP HOUSE ใช้พื้นที่เริ่มต้นที่ขนาด 10 ตารางเมตรขึ้นไป ค่าแฟรนไชส์ 300,000 บาท เป็นค่าตกแต่งร้าน และอุปกรณ์สินค้า โดยผู้ที่สนใจทำอย่างเดียวคือ หาสถานที่ ระยะเวลาสัญญา 2 ปี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยการเลือกโลเคชั่น คือ แหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
ปัจจุบัน มีคนให้ความสนใจ 22 ราย ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ตั้งเป้าในปี 65 ขยาย 300 สาขา และแตะ 1,000 สาขา ภายใน 3 ปี พร้อมวางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
- คาเฟ่สายเขียว เชิงสุขภาพ
ด้าน ณัฏฐิฏา ภูมิภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท GTH “Golden Triangle Health” จำกัด เปิดเผยว่า HEMP HOUSE เป็นร้านไลฟ์สไตล์คาเฟ่สายเขียวเชิงสุขภาพ ที่เน้นผสมผสานพืชเพื่อสุขภาพ มาเป็นส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่มที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีและอารมณ์ดี โดยใช้ผลิตผลหลักจากกัญชง ผสานกับพืชสมุนไพรต่างๆ ออกมาเป็นเมนูสายเขียวที่ทานได้ดีมีประโยชน์
เมนูหลักของร้านประกอบด้วย เครื่องดื่ม ชาเขียว ชาไทย ชาใต้หวัน โกโก้ และโซดารสผลไม้ และขนมเทอพีนกัญชงแบรนด์ TOM ซึ่งเป็นกลุ่มขนมอารมณ์ดี Relax Snack ประกอบด้วย Thai Coconut Roll with Terpene Flavour ทองม้วนกรอบกลิ่นรสเทอพีน ,Tom Popcorn Terpene cheese flavour ทอมป็อปคอร์นชีสกลิ่นรสเทอพีน,Tom Popcorn Terpene caramel flavour ทอมป็อปคอร์นคาราเมลกลิ่นรสเทอพีน และ Chocolate covered Rice Puff flavour ช็อกโกแลตเคลือบข้าวพองกรอบกลิ่นรสเทอพีน และ ไอศกรีมเทอพีน TOM
โดยในปีหน้านี้ ร้าน HEMP HOUSE จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้และอาหารเสริมที่มีการดึงประโยชน์จากพืชและสมุนไพรต่างๆ มาประยุกต์ใช้ตามคอนเซปท์ Healthy Plant โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์จากกัญชงที่ได้ปลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยใช้สารสกัดสำคัญไม่ว่าจะเป็น CBD, HEMP Oil, Terpene ที่สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ขยายโอกาสธุรกิจและตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ