ผู้ป่วย "โอมิครอน" ไทยพุ่ง 934 ราย เปิดประเทศ ธ.ค. Test & Go พบเชื้อเพิ่ม 4 เท่า 

ผู้ป่วย "โอมิครอน" ไทยพุ่ง 934 ราย เปิดประเทศ ธ.ค. Test & Go พบเชื้อเพิ่ม 4 เท่า 

สธ. เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน" สะสม 934 ราย ขณะที่ การเปิดประเทศ เดือน ธ.ค. ผู้ติดเชื้อระบบ "Test & Go" คิดเป็น 0.32% เพิ่มขึ้น 4 เท่า จากเดือน พ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 0.08%

วันนี้ (30 ธ.ค. 64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 โดยระบุว่า ใกล้ปีใหม่ภาพรวมของการเกิดโรค โควิด-19 จำนวนการติดเชื้อระดับโลก 1,495,495 รายในวันเดียว ยอดสะสม 284,772,667 ราย เสียชีวิต 6,362 ราย เสียชีวิตสะสม 5,437,611 ราย ประเทศที่มีการติดเชื้อสูงต่อเนื่อง สหรัฐอเมริกา รายงานติดเชื้อใหม่กว่า 4.5 แสนราย เสียชีวิต 1,436 ราย รวมถึงฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ที่มีการติดเชื้อหลักแสน 

 

  • "โอมิครอน" แอฟริกา พ้นจุดสูงสุด

 

“หากให้ความสนใจในเรื่อง "โอมิครอน" ในแอฟริกาใต้ จำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ตั้งแต่ปีก่อน คลื่น 1-3 เป็นเดลตา จะเห็นการการเสียชีวิตขยับสูงขึ้นแต่ละระลอกสอดคล้องกัน ช่วงเดลตาการเสียชีวิตสูงต่อวันราว 400 ราย แต่พอโอมิครอน แอฟริกาใต้ จำนวนเสียชีวิตไม่ได้สูงขึ้น ทั้งๆ ที่ยอดจำนวนต่อวันของโอมิครอนเรียกว่าสูงกว่าเดลตา

 

และจุดสำคัญ จากที่แอฟริกาใต้รายงานเจอกลุ่มก้อนช่วงแรกกลางเดือน พ.ย. จนขณะนี้ พบว่ามีการแพร่กระจายไวแต่มีโอกาสที่จะทำให้ผ่านพ้นจุดสูงสุดได้เร็ว ก่อนหน้านี้หลังจากที่เห็นจุดพีค ยกระดับขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ 3-4 สัปดาห์ อาจจะเห็นจำนวนเสียชีวิตของจริง ซึ่งแอฟริกาใต้ก็ผ่านจุดนั้นมา

 

"ดังนั้น ในส่วนของแอฟริกาใต้ ค่อนข้างมั่นใจว่าโอมิครอน ไม่ได้ทำให้มีอาการเสียชีวิตในเปอร์เซ็นต์สูง อย่างไรก็ตาม การจะสรุปว่าประเทศอื่นเป็นอย่างนี้หรือไม่ ต้องติดตามข้อมูลต่อเนื่องไป"

  • อังกฤษ โอมิครอนระบาด แต่เสียชีวิตไม่สูง

 

ขณะที่อังกฤษ จำนวนติดเชื้อเดลต้า ก.ย. – ส.ค. และต่อเนื่องมาเป็นโอมิครอน พ.ย. – ธ.ค. มีการติดเชื้อพุ่งสูงแต่อัตราการตายไม่ได้ยกตัวตาม ยังอยู่ระหว่างการติดตามต่อเนื่อง แต่สังเกตว่าเดลต้า การเสียชีวิตในอังกฤษก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเหมือนก่อนหน้านั้น ส่วนหนึ่ง คือ การฉีดวัคซีนตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นผลลดการเสียชีวิต ลดการป่วยหนัก 

 

  • สหรัฐอเมริกา โอมิครอนราว 58%

 

สหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์นี้มีการประมาณว่าโอมิครอนเป็นสัดส่วน 58% ถือว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูง แต่การเสียชีวิตยังไม่สูงเท่าช่วงเดลต้า ทั้งๆ ที่ผู้ติดเชื้อแซงหน้าเดลต้า และสหรัฐฯยังต้องติดตามต่อเนื่อง หากการเสียชีวิตยังคงระดับอย่างนี้ ไม่ได้ยกตัวสูงขึ้นเท่าเดลต้า ลักษณะอาการก็คงไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ทางวิชาการ ถือว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุป 

 

  • ไทย พบผู้ติดเชื้อโอมิครอน 934 ราย 

 

สำหรับประเทศไทย จากการเจอคลื่นการระบาดตั้งแต่ช่วง มี.ค. ปีที่แล้ว และปลายปีที่ตลาดกุ้งต่อเนื่องถึงต้นปี 2564 จะเห็นคลื่นเล็กๆ จนกระทั่งเจอสายพันธุ์อัลฟา และเดลตาที่สูงที่สุด จำนวนการเสียชีวิตยกตัวขึ้น และช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มพบโอมิครอนต่อเนื่อง การรายงานวานนี้ 740 ราย 

 

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุข ตัวเลขเวลา 22.00 น. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 64 ผู้ติดเชื้อโอมิครอนจำนวน 934 ราย

  • ผู้ติดเชื้อ "Test & Go" เดือน ธ.ค. สูงขึ้น 4 เท่า 

 

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อไปว่า การเดินทางเข้าประเทศ ธ.ค. มีจำนวนการเดินทางเข้าประเทศสูงต่อเนื่อง ในเดือนธ.ค. มีผู้เดินทางเข้ามา 270,851  ราย เป็น 2 เท่าจากเดือน พ.ย. ขณะที่การติดเชื้อ 1-29 ธ.ค. 64 สะสม 1,056 ราย  

 

ทั้งนี้ หากดูผู้เดินทางมาในระบบ Test & Go เดือน พ.ย. พบว่า ติดเชื้อ 84 ราย จากผู้เดินทาง 106,211 ราย คิดเป็น 0.08% ขณะที่เดิน ธ.ค. ระบบ Test & Go ติดเชื้อ 730 ราย 227,604 ราย คิดเป็น 0.32%  สูงขึ้นประมาณ 4 เท่า ส่วนหนึ่งจากสถานการณ์ประเทศต้นทาง แสดงว่าโอมิครอนมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และภาพรวมที่เดินทางเข้าประเทศทุกกลุ่ม ก็มีอัตราติดเชื้อสูงขึ้นเช่นกัน 

 

  • ไทยติดเชื้อ รายใหม่ 3,037 ราย 

 

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทย ติดเชื้อรายใหม่ 3,037 ราย หายป่วย 3,115 ราย เสียชีวิต 25 ราย โดย 14 วันก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ราว 40 กว่าราย ปอดอักเสบลดลงต่อเนื่อง และใส่ท่อช่วยหายใจลดลงเช่นกัน มาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ที่ลดความเสี่ยง ฉีดวัคซีน ทำให้การเจ็บป่วย เสียชีวิตลดน้อยลง 

 

ขณะที่ ผู้เสียชีวิต 25 ราย มาจากกทม. 3 ราย ภาคเหนือ 11 ราย ส่วนภาคอื่นเป็นเลขหลักเดียว โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง ส่วนการฉีดวัคซีน 103,894,611 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 51,205,920 โดส ครอบคลุมประชากร 71.1% 

 

  • การฉีดวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี 

 

สำหรับความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปี นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า การขออนุญาต ทางอย. ได้อนุมัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์สูตรสำหรับเด็ก ให้กับเด็กที่อายุ 5-11 ปี ได้ อยู่ในช่วงรอการได้วัคซีนเข้ามาถึงจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ขอนำเรียนให้ทราบ บางท่านอาจเป็นห่วงกังวลว่าเด็กจะมีความเสี่ยงเพราะยังไม่วัคซีน

 

"เรียนว่าหลายประเทศก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้ที่มีการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ ข้อแนะนำในเด็ก คือ ใช้มาตรการป้องกันทั่วไปก็สามารถลดความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเลี่ยงอยู่ในที่หน้าแน่น ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ"

 

เมื่อมีข้อมูลทางวิชาการมากขึ้น ประเมินความเสี่ยง ประเมินประโยชน์จากการฉีดวัคซีน และประเมินสถานการณ์การติดเชื้อ จะเห็นว่าแม้ในเด็กการติดเชื้อโควิดจะอาการไม่รุนแรง แต่ก็มีความเสี่ยงลองโควิด และเด็กที่มีโรคประจำตัวก็มีโอกาสมีอาการปรากฎให้เห็นได้ ดังนั้น ระหว่างที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเราสามารถป้องกันตนเองลดความเสี่ยงได้ 

 

ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน ในผู้ใหญ่ วัคซีนเป็นเพียงมาตรการหนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด ถึงแม้จะฉีดแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยมาตรการอื่น ฉีดแล้วไม่สวมหน้ากากไม่ใช่ ไม่อยู่ห่าง ไม่ล้างมือก็ไม่ใช่ ยังต้องทำทุกอย่าง แม้แต่ ATK ก็เช่นกัน ต่อให้ผลออกมาไม่ติดเชื้อ ก็ยังคงมาตรการอื่นๆ ตลอดเวลา