สกัดกั้นขยะพลาสติก "เจ้าพระยา" ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

สกัดกั้นขยะพลาสติก "เจ้าพระยา" ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

"จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ร่วมกับ "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" และ ดิ โอเชียน คลีนอัพ ดำเนินโครงการกำจัด "ขยะพลาสติก" จากแม่ น้ำ "เจ้าพระยา" ในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งศึกษากลไกพฤติกรรมเชิงลึกของขยะพลาสติกในทุกช่วงเวลา เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

ปัจจุบัน ความต้องการใช้ พลาสติก สังเคราะห์จากปิโตรเลียมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมในช่วงทศวรรษ 1950 ทั่วโลกมีการใช้พลาสติกเพียงสองล้านตัน แต่ในปัจจุบันกลับใช้มากถึงสี่ร้อยล้านตันต่อปี โดยพลาสติกได้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม นับตั้งแต่ด้านบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อสำหรับอาหารและยา ไปจนถึงชิ้นส่วนน้ำหนักเบาของยานยนต์และเครื่องบิน และอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อสิ้นอายุการใช้งาน พลาสติกเหล่านี้กลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม

 

ศาสตราจารย์ ดร. สุชนา ชวนิชย์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ และรองกรรมการผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากจำนวนพลาสติกที่ถูกผลิตมากกว่าแปดล้านตันทั่วโลก ร้อยละ 80 ของพลาสติกเหล่านั้นกลายเป็นขยะในหลุมฝังกลบหรือปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม จากการที่ขยะพลาสติกไหลลงสู่มหาสมุทรผ่านแม่น้ำเป็นเส้นทางหลัก ปัจจุบัน มีการคาดการณ์ว่ามี ขยะพลาสติก จากทั่วโลกไหลลงสู่แม่น้ำเป็นจำนวน 0.8–2.7 ล้านตันในแต่ละปี

ดร. โทมัส มานี หัวหน้านักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมด้านแม่น้ำแห่งดิ โอเชียน คลีนอัพ กล่าวว่าความร่วมมือทางวิชาการและลักษณะเฉพาะของแม่น้ำ เจ้าพระยา ในฐานะ ‘ห้องปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อม’ เป็นการสร้างโอกาสที่ดี ในการช่วยพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดมลภาวะพลาสติก การเดินทางสู่ทะเล และจุดสิ้นสุดของขยะพลาสติก

 

ทั้งนี้ ดิ โอเชียน คลีนอัพ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และบริษัทในเครือของ Asimar Ecomarine ได้มีการติดตั้งเรือดักขยะแม่น้ำพลังแสงอาทิตย์ Interceptor™ ในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคาดว่าจะสามารถสกัดขยะพลาสติกได้ประมาณ 80-300 ตันต่อปี และช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในปัญหา ขยะพลาสติกในมหาสมุทรและสำรวจความเป็นไปได้อื่น ๆ เพื่อสกัดกั้นขยะพลาสติกในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

ดร. มานี  หัวหน้าโครงการวิจัยได้แนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษพลาสติกจากดิ โอเชียน คลีนอัพ ให้ทำงานร่วมกับโครงการนี้ โดยมีความเชื่อว่า “หากเราวัดผลไม่ได้ เราก็จะจัดการไม่ได้” ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงและความร่วมมือเพื่อผลักดันการวิจัยเชิงลึกในการพัฒนาความเข้าใจของประชาชน รัฐบาล และนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมนี้

ทั้งนี้ โครงการวิจัยกำจัดขยะพลาสติกจากแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี( 2564-2567) โดยมุ่งเน้นการศึกษาวิจัยในส่วนที่ติดกับตัวเมืองของแม่น้ำเจ้าพระยาโดยรอบกรุงเทพฯ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ยังเข้าใจกลไกของฟลักซ์ของขยะพลาสติกตามแต่ละช่วงเวลาไม่กระจ่างนัก เช่น ระยะเวลาของขยะพลาสติกรั่วไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา การถูกชะลงน้ำ การพัดพาขยะพลาสติกถึงปากแม่น้ำและไหลลงอ่าวไทย การสกัดกั้นขยะพลาสติกด้วยเรือ Interceptor™ เป็นต้น

 

โดยนักวิจัยจะติดกล้องสำรวจตามลำน้ำสาขาและบนสะพานข้ามแม่น้ำ ปล่อยเครื่องติดตามจีพีเอส (Global Positioning System: GPS) ลงในลำน้ำติดตามเส้นทางการไหล และสัมภาษณ์คนในพื้นที่เกี่ยวกับความตระหนักรู้และความเชื่อเกี่ยวกับการปล่อยของเสียในครัวเรือนลงสู่แม่น้ำ

 

“เราจำเป็นต้องเก็บหลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งเพื่อสนับสนุนและโต้แย้งกับข้อมูลของแบบจำลองในปัจจุบัน”

 

ดร. สุมนา ขจรวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นผู้แทนจากทางภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในโครงการนี้ กล่าวว่า “ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ได้จากโครงการนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อแหล่งน้ำอื่น ๆ อีกด้วย”