วัคซีนโควิด19 ฉีดเข็ม 3 ช่วยคนแก่เสียชีวิตลดลง 41 เท่า
สธ.เผยคนแก่ไม่ฉีดวัคซีนโควิด19เสียชีวิตสูง ขณะที่รับ 2เข็มอัตราตายลดลง 6 เท่า ฉีดเข็ม3ลดลงถึง 41 เท่า เร่งแผนค้นหาถึงบ้านสมัครใจฉีดให้ทันที
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงสถานการณ์โควิด19 นพ.โสภณ เอี่ยมโสภณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด19สะสมแล้วมากกว่า 122 ล้านโดส เป็นเข็ม 1 คิดเป็น 76.6 % เข็ม 2 คิดเป็น 71.3 % และเข็ม3 คิดเป็น 28.2 % ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค จากวันที่ 1 ม.ค. - 18 ก.พ. 2565 ผู้เสียชีวิตจากการติดโควิด19 เป็นผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี เป็นจำนวน 666 คน คิดเป็น82% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
เมื่อแยกประเภทตามประวัติการได้รับวัคซีน พบว่า 1) ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน จำนวน 387 คน 58.2 %2) มีประวัติรับวัคซีน 1 เข็ม จำนวน 66 คน 9.9%3) มีประวัติรับวัคซีน 2 เข็ม จำนวน 197 คน 29.5% 4) มีประวัติวัคซีน 3 เข็มขึ้นไป จำนวน 16 คน 2.4%
ขณะนี้ผู้สูงอายุยังไม่ได้รับวัคซีนราว 2.2 ล้านโดส จากทั้งหมดประมาณ 12.7 ล้านคน เมื่อพิจารณาวัคซีนสามารถป้องกันผู้สูงอายุเสียชีวิตจากโควิด19 ได้ผลดีมาก โดยผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้รับวัคซีน คิดเป็นอัตรา 178 ต่อล้านคน ได้รับวัคซีนเพียง 1เข็มอัตราเสียชีวิต 112ต่อล้านคน รับวัคซีน 2 เข็มอัตราเสียชีวิต 32 ต่อล้านคน จะเห็นว่าเสียชีวิตลดลง 6 เท่า และรับวัคซีน 3 เข็ม อัตราเสียชีวิต 4 ต่อล้านคน เสียชีวิตลดลง 41 เท่า
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะมีการฉีดวัคซีนโควิด19ให้ผู้สูงอายุครอบคลุมแล้ว 82.8 % ซึ่งถือว่าสูงแต่ต้องการให้สูงขึ้นอีก จึงจะมีการเร่งรัดการฉีดในผู้สูงอายุ โดยการค้นหาผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซํนให้พบ ให้เข้อมูลทุกทาง บูรณาการทุกหน่วยงาน และหากยินยอมสมัครใจก็ให้ได้รับวัคซีนทันที
สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ได้รับวัคซีนแล้วราว 5 แสนคน จากจำนวนเป้าหมายราว 5 ล้าคน ครอบคลุม 9 % แม้เด็กจะติดเชื้อแล้วป่วยไม่มาก แต่เด็กวัยนี้อาจจะมีการใกล้ชิดกับผู้สูงอายุแล้วนำเชื้อไปติดได้ เพราะฉะนั้นการเร่งรัดฉีดวัคซีนในกลุ่มเด้กจะเป็นการปกป้องผู้สูงอายุได้อีกทางและลดการระบาดในโรงเรียน