รัฐ-เอกชน ผนึกกำลังขับเคลื่อนสมาร์ทซิตี้
“เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต” ประกาศความร่วมมือ “ดีป้า” จัด “สมาร์ทซิตี้ โซลูชั่น วีค 2019” ครั้งแรกในไทย นำงานแสดงสินค้า 3 แบรนด์ ซีเคียวเทค ไทยแลนด์ - ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ -ไทยแลนด์ บิลดิ้ง แฟร์ จัดพร้อมกับงานดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019
นายริชาร์ด ลี ผู้จัดการทั่วไป เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต (เซี่ยงไฮ้) กล่าวว่า ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลจัดงาน “สมาร์ทซิตี้ โซลูชั่น วีค 2019(Smart City Solution Week 2019)” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นการนำงานแสดงสินค้า 3 แบรนด์ ได้แก่ซีเคียวเทค ไทยแลนด์, ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ และ ไทยแลนด์ บิลดิ้ง แฟร์ มาจัดพร้อมกับงานดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019
ทั้งนี้มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 28 – 31 ต.ค. 2562 ณศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนาหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสมาร์ทซิตี้แห่งภูมิภาคอาเซียนพร้อมเปิดมิติใหม่งานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชั่นล่าสุดเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ครบวงจรตั้งแต่โซลูชั่นด้านความปลอดภัยอัจฉริยะอาคารอัจฉริยะพลังงานอัจฉริยะและนวัตกรรมดิจิทัล
เมสเซ่แฟรงค์เฟิร์ตมุ่งสนับสนุนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ในภูมิภาคอาเซียนมั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างดีป้ากับเมสเซ่แฟรงค์เฟิร์ตในการจัดงานแสดงเทคโนโลยี 4 งานพร้อมกันจะก่อให้เกิดเป็นมหกรรมงานแสดงสินค้าในแนวคิดสมาร์ทซิตี้โซลูชั่นวีค (Smart City Solution Week) จะเกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทยและอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม
ดีป้า เวิลด์เด็กซ์และดิเอ็กซ์ซิบิสจะเข้าใจถึงความต้องการของตลาดในประเทศขณะที่เมสเซ่แฟรงค์เฟิร์ตจะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการจัดงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลกพร้อมจุดแข็งด้านเครือข่ายพันธมิตรของเมสเซ่แฟรงค์เฟิร์ตที่มีอยู่ทั่วโลกมาสนับสนุนการเติบโตของงานตอบสนองความต้องการในประเทศยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าชมงานและที่สำคัญเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้แก่แวดวงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ปี 2561 งานซีเคียวเทคไทยแลนด์งานไทยแลนด์ไลท์ติ้งแฟร์และไทยแลนด์บิลดิ้งแฟร์นั้นสามารถดึงดูดผู้แสดงสินค้าได้กว่า 300 รายจาก 18 ประเทศและได้ต้อนรับผู้ชมงานกว่า 10,000 คนและในปีนี้เมื่อผนวกการจัดงานทั้ง 3 งานพร้อมกับงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบงซึ่งเป็นงานด้านดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนเป็นมหกรรมงานแสดงสินค้าภายใต้คอนเซปต์ Smart City Solution Week 2019 นอกจากจะเพิ่มความยิ่งใหญ่ของการจัดงานแล้วยังจะดึงดูดผู้เยี่ยมชมมากขึ้นและขยายโอกาสทางธุรกิจและองค์ความรู้เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเมืองอัจฉริยะเพิ่มขึ้นด้วย 4 งานแสดงสินค้าที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญแต่ละอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
สำหรับงานไทยแลนด์ไลท์ติ้งแฟร์ 2019 และงานไทยแลนด์บิลดิ้งแฟร์ 2019 ซึ่งมีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจะจัดร่วมกันภายใต้แนวคิด “City + IoT – A sustainable and livable future” มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีพัฒนาเมืองและไอโอทีเพื่อการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและน่าอยู่ตอบสนองวิวัฒนาการดิจิทัลที่เทคโนโลยีไอโอทีถูกนำมาประยุกต์ใช้กับโซลูชั่นส์เพื่อการพัฒนาเมืองในด้านต่างๆอาทิระบบไฟถนนอัจฉริยะระบบโครงข่ายสำหรับส่งไฟฟ้าอัจฉริยะหรือสมาร์ทกริดรวมทั้งระบบอาคารอัจฉริยะและระบบพลังงานอัจฉริยะโดยอาศัยเซ็นเซอร์เพื่อเก็บบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลและความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายของเมืองอัจฉริยะที่ซับซ้อนนำไปสู่การพัฒนาแอปพลิเคชั่นสมาร์ทซิตี้นับพันแอปช่วยให้ผู้นำเมืองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาเมืองมีข้อมูลคุณภาพสูงจำนวนมหาศาลที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
ภายใต้แนวคิดดังกล่าวงานไทยแลนด์ไลท์ติ้งแฟร์ 2019 และงานไทยแลนด์บิลดิ้งแฟร์ 2019 จะนำเสนอโซลูชั่นส์ที่ตอบสนองความต้องการของสมาร์ทซิตี้ในหลายด้านตั้งแต่โซนแอพพลิเคชั่นดิจิทัล (ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ, ที่จอดรถอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะ) โซนเทคโนโลยีอัจฉริยะ (เซ็นเซอร์อัจฉริยะระบบควบคุมอัจฉริยะรวมทั้งสมาร์ทไลท์ติ้งแพลตฟอร์มอัจฉริยะต่างๆ) โซนระบบการบริหารจัดการอัจฉริยะ (การบริหารทรัพยากรอัจฉริยะและการบริหารจัดการชุมชนอัจฉริยะ) นอกจากนี้เพื่อสร้างเมืองแห่งอนาคตที่ยั่งยืนและน่าอยู่ภายในงานยังมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นส์การบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะรวมถึงพลังงานทดแทนและการผลิตพลังงานไฟฟ้า การไฟฟ้าดิจิทัลอีกด้วย
ปีนี้งานซีเคียวเทคไทยแลนด์ 2019 จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'Security + AI – Empowers Sustainable City Development” โดยจะนำเสนอนวัตกรรมความปลอดภัยที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และเทคโนโลยีไอโอที (ไอโอที) ล่าสุดเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับเมืองอัจฉริยะ
เพื่อรองรับความต้องการของผู้เข้าชมงานในการจัดหาโซลูชันที่แตกต่างกันและเน้นตลาดความปลอดภัยที่สำคัญงานซีเคียวเทคไทยแลนด์ 2019 จะประกอบด้วย 5 โซนได้แก่ โซน Smart Police โซน Safe Factory โซน Smart Transportation โซน Smart Campus และโซน Smart Solutions ที่เน้นโซลูชั่นส์การจัดการสิ่งแวดล้อมโดยโซนเหล่านี้จะประกอบไปด้วยเทคโนโลยีและโซลูชั่นส์ล่าสุดด้านระบบเฝ้าระวังระบบระบุตัวตน ไบโอเมตริกซ์เซ็นเซอร์อัจฉริยะสัญญาณเตือนภัยระบบควบคุมการเข้าออกและระบบจัดการฝูงชน
ข้อมูลของ MarketsandMarkets คาดการณ์ว่าตลาดสมาร์ทซิตี้จะเติบโตจากมูลค่า 308 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 ไปเป็น 717.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 18.4% ในช่วง 4 ปีปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสมาร์ทซิตี้คือความต้องการด้านความปลอดภัยในที่สาธารณะการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรที่เข้ามาใช้ชีวิตในเมืองและโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐโดยระบบการคมนาคมขนส่งอัจฉริยะจะเป็นสัดส่วนตลาดที่ใหญ่ที่สุดเนื่องมาจากความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับจำนวนประชากรในเมืองที่เพิ่มขึ้นและความจำเป็นในการบริหารจัดการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม