เฟซบุ๊กผุดหลักสูตรค้าออนไลน์ 

เฟซบุ๊กผุดหลักสูตรค้าออนไลน์ 

ส่งโปรแกรมติวทักษะดิจิทัล เจาะธุรกิจไทย

เฟซบุ๊กจับมือมูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย เปิดตัวโปรแกรม “ Boost with Facebook” ครั้งแรก ด้วยการอบรมทักษะการสร้างธุรกิจบนเฟซบุ๊ก นำร่องกลุ่มเป้าหมายในมูลนิธิ 1,000 คน ที่ขาดโอกาสทางสังคม เริ่มอบรม 11 จุดทั่วประเทศ มิ.ย.- พ.ย. 2562 นี้ ระบุเป็นโปรแกรมอบรมทักษะดิจิทัลช่วยยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งในแบบบุคคลและออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

เบธ แอน ลิม หัวหน้าฝ่ายกิจการชุมชน ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค เฟซบุ๊ก กล่าวว่า โปรแกรม “ Boost with Facebook” คือโปรแกรมระดับโลก ในการช่วยอบรมสร้างทักษะในการทำธุรกิจออนไลน์บนแพลตฟอร์มของ เฟซบุ๊ก เช่น การสร้างเพจธุรกิจบนเฟซบุ๊ก และ อินสตราแกรม ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถใช้เครื่องมือต่างๆในการช่วยสร้างคอนเทนต์และการขยายการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งโปรแกรมนี้ได้มีการใช้กับหลายๆประเทศในทั่วโลกแล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กเลือกทำกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก

โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ด้อยโอกาสทางสังคม จึงร่วมมือกับ มูลนิธิคีนัน ในการหากลุ่มเป้าหมายร่วมกันในการอบรมกับกลุ่มคนดังกล่าว จำนวน 1,000 คน ที่อยู่ในเครือข่ายของมูลนิธิ เช่น ชุมชนผู้พิการ ชุมชนเพศทางเลือก ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล สตรีที่ถูกทำร้ายทางเพศ เพื่อให้มีโอกาสในการสร้างรายได้ โดยโปรแกรมอบรมทักษะทางดิจิทัลนี้จะจัดขึ้นให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งในระดับเจ้าของธุรกิจและผู้จัดการ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรมจะได้รับอบรมทั้งในแบบบุคคลและระบบออนไลน์ผ่านแฟลตฟอร์ม เพื่อช่วยสร้างคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์และการขยายเติบโตของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

“เฟซบุ๊กมีภารกิจในประเทศไทยที่ต้องการช่วยเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่สำคัญในประเทศไทยมีการใช้งานเฟซบุ๊กถึง 54 ล้านคนต่อเดือน และ 38 ล้านคนต่อวัน ทำให้เฟซบุ๊กกลายเป็นสื่อออนไลน์ที่ง่ายต่อการสร้างธุรกิจ”

ทั้งนี้ จากรายงานฟิวเจอร์ ออฟ บิสซิเนส ระบุว่า ภาคธุรกิจและชุมชนของไทยพบว่าในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจดิจิทัลคิดเป็นอัตราส่วน 19% ของจีดีพี และคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ถึง 2.82 แสนล้านบาทภายในปี 2564 ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 3 ล้านรายในไทยที่คาดว่าจะสร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ43ของจีดีพีรวมของประเทศ ภายในปี2562อย่างไรก็ตาม รายงานผลสำรวจยังเผยว่ามีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมการสำรวจไม่ถึงร้อยละ16ที่รู้สึกมั่นใจว่าตนเองมีความรู้ในการใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับธุรกิจได้อย่างชำนาญ1

ด้านนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการและรองประธานกรรมการมูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย กล่าวว่า โครงการนี้จะเริ่มในเดือน มิ.ย.-พ.ย. 2562 โดยมูลนิธิจะทำงานร่วมกับเครือข่ายทั้วประเทศในการอบรม 11 จุด ทั้ง 4 ภาคในประเทศไทย โดยกลุ่มเป้าหมาย 1,000 คนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีคอนเทนต์หรือธุรกิจมาก่อน หากไม่มีทางมูลนิธิจะช่วยแนะแนวทางให้ แต่หากมีมูลนิธิก็จะเน้นเรื่องการทำตลาดซึ่งเป็นปัญหาหลักของคนไทยให้ทำได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้เรื่องการบริหารจัดการการเงินก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่โครงการนี้จะต้องตระหนักเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดด้วย โดยมูลนิธิจะสร้างเทรนด์เนอร์ในการให้คำปรึกษาตลอดระยะโครงการ มีการอบรมทั้งแบบบุคคลและระบบออนไลน์ และแม้ว่าจะจบโครงการไปแล้ว มูลนิธิก็จะยังคงช่วยเหลือให้คำปรึกษาต่อไป