ปี 2563 ดูจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านและเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างแท้จริง ท่ามกลางคลื่นดิจิทัลที่ถาโถม ซึ่งประเทศไทยเองวางเป้าหมายพร้อมเข้าสู่การบูรณาการระบบผ่านเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ โดยหน่วยงานที่มีความสำคัญและมีหน้าที่รับผิดชอบหลายโครงการสำคัญของประเทศคือ “ดีป้า” หรือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มีงานสำคัญโดยเฉพาะการวางรากฐานระบบดิจิทัลและร่วมพัฒนาเพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทซิตี้
ปั้นเด็กพันธุ์ใหม่-ไวท์แฮกเกอร์
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า กล่าวถึงแผนการดำเนินการที่จะทำในปี 2563 ว่า ดีป้าให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนดิจิทัล การพัฒนาขีดความสามารถของเด็กโดยเฉพาะที่เกิดหลังปี 2540 ให้การมีทักษะด้านดิจิทัล ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมตามแผนที่วางไว้ โดยดีป้าจะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดให้มีการให้ความรู้กับเยาวชน ส่วนดีป้าจะสนับสนุนในการทำแพลตฟอร์ม เพื่อการเรียนรู้เพื่อรองรับการใช้งานของเยาวชนรุ่นใหม่ ที่เมื่อเข้าอบรมแล้วต้องการเครื่องมือในการพัฒนาคำปรึกษาจะมาที่แพลตฟอร์มนี้
“แพลตฟอร์มจะรองรับเยาวชนได้ถึง 1 แสนคนขึ้นไป การที่เราทำแพลตฟอร์มเพื่อช่วยนักพัฒนารุ่นใหม่ได้อย่างทั่วถึง นอกจากนักพัฒนารุ่นใหม่จะเปิดให้โรงเรียนและสถานศึกษาเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มนี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาทักษะดิจิทัล”
ผู้อำนวยการดีป้า กล่าวอีกว่า นอกจากการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนเรียนรู้ทักษะดิจิทัล ในส่วนของการพัฒนาระดับที่สูงขึ้น โดยจะสร้างผู้เชี่ยวชาญในการดูและเฝ้าระวังความปลอดภัยเครือข่าย (ไวท์ แฮกเกอร์) ซึ่งจะทำหน้าที่จะในตรวจสอบและชี้ให้เห็นช่องโหวที่อาจจะถูกโจมตีได้ บทบาทส่วนนี้จะไปรองรับความต้องการบุคลากรรักษาความปลอดภัยเครือข่ายตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงไซเบอร์ และช่วยเอกชนให้มีบุคลากรเพียงพอในการรับมือกับภัยคุกคามและการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
ชูไอทีรับมือธุรกิจที่ถูกดิสรัปชั่น
โดยแผนงานนั้น ก็เพื่อรองรับการมาของปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) บิ๊กดาต้า และอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) ซึ่งจะต้องเร่งสร้างบุคลากรด้านไอเอทั้งที่มีทักษะไอที และไม่มีทักษะไอทีขึ้นมาให้เพียงพอกับความต้องการที่เริ่มต้นขึ้น โดยดีป้าจะสร้างความร่วมมือระหว่างคนรุ่นใหม่กับบุคลากรที่ทำงานอยู่ในภาคอุตสาหกรรม และระบบเศรษฐกิจสำคัญที่จะใช้เอไอเพื่อทำให้เกิดความร่วมมือในการใช้งานและพัฒนา
สำหรับงานด้านสังคมและประชาชน ดีป้าจะช่วยเตรียมมาตรการเตรียมพร้อม และรองรับการที่ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจถูกการพัฒนาดิจิทัลเข้ามาแทนที่การทำงานของระบบงานเดิมทำให้คนได้รับผลกระทบจากการลดขนาดขององค์กร และต้องหางานรองรับเพื่อให้มีทางออกได้ โดยดีป้าจะร่วมมือกับยูทูปเบอร์ อินฟูลเลนเซอร์ ในการเอาเนื้อหาในการสร้างงานสร้างอาชีพมาให้ผู้ที่ต้องการสร้างงานใหม่ของตัวเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยให้คำแนะนำและช่วยทำแผนธุรกิจ นอกจากช่วยรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัล การรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงองค์กรเป็นดิจิทัล
ทั้งนี้ ดีป้าจะช่วยหาแนวทางในการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขยาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขนาดใหญ่และได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านไม่ว่าจะเป็นธุรกิจท่องเที่ยว ธุรการแปรรูปอาหาร เมื่อกระบวนการของธุรกิจถูกทำให้เป็นดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งดีป้าจะช่วยในส่วนนี้เพื่อเอสเอ็มอีดำเนินธุรกิจต่อไปได้เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคธุรกิจใหม่
โดยส่วนมีเป้าหมายที่จะช่วยเอสเอ็มอีให้ได้อย่างน้อย 3,000 ราย ส่วนแผนงานด้านชุมชนจะเริ่มกระจายการทำงานชุมชนให้กว้างมากขึ้น ขณะเดียวกันจะเน้นไปในจุดที่ต้องการพัฒนารองรับความเป็นสมาร์ทซิตี้ให้มากขึ้น รองรับความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ เช่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่องทางติดต่อประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออก