’อาลีบาบา’ เลือกไทยผุดโปรเจคระดับโลก 

’อาลีบาบา’ เลือกไทยผุดโปรเจคระดับโลก 

ตั้งเป้าหนุนเอสเอ็มอี เพิ่มจำนวนแบรนด์บนเถาเป่า 25% สิ้นปีนี้

“เถาเป่า โกลบอล” ปักหมุดตลาดไทย เปิดตัวโครงการระดับโลก “โปรเจค แมคเจลแลน” หนุนเอสเอ็มอีไทยแจ้งเกิดบนอีคอมเมิร์ซจีน เล็งร่วมมือภาครัฐ ผู้ผลิต พันธมิตรผู้ค้า จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนแบรนด์บนมาร์เก็ตเพลส ช่วยผู้ค้าเพิ่มยอดขาย สร้างชื่อ เพิ่มความเชื่อมั่นบนเวทีการค้าระดับโลก

นายเหยา เหว่ย ผู้อำนวยการ เถาเป่า โกลบอล ในเครืออาลีบาบา กล่าวว่า เลือกไทยเป็นประเทศแรกในการเปิดตัวโครงการระดับโลก “โปรเจค แมคเจลแลน” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในต่างประเทศสามารถนำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคในประเทศจีน

ทั้งนี้ สาเหตุที่เลือกไทยเนื่องจากสินค้ามีความหลากหลายไม่เหมือนใคร โดยกลุ่มสินค้าที่จะเน้นประกอบด้วย หมอนยางพารา ที่นอนยางพารา ผลไม้อบแห้ง และเครื่องสำอาง ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มจำนวนแบรนด์ไทยที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มเถาเป่าอย่างน้อย 25% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ตลาดเป้าหมายอื่นๆ ยังมีญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ

“เถาเป่า โกลบอล มุ่งช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วโลกสร้างธุรกิจในจีน ผ่านผู้ค้าหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ที่เข้าถึงผู้ติดตามชาวจีน ขณะเดียวกันช่วยโปรโมทสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียและไลฟ์สตรีมมิง รวมถึงการตลาดที่จะเพิ่มยอดขาย”

157848686752

เขากล่าวว่า เตรียมเดินหน้าช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้รู้จักแบรนด์จากต่างประเทศที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ผู้ผลิตในอุตสาหกรรม รวมถึงพันธมิตรในแต่ละประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายจัดกิจกรรมซอร์สซิ่งให้กลุ่มผู้ค้าของเถาเป่าโกลบอลได้เลือกชมผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใครจากผู้ผลิตโดยตรง ขณะเดียวกันผลักดันให้แบรนด์เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเติบโต

ที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่ในจีนต่างมองหาผลิตภัณฑ์ที่น่าใช้และมีคุณภาพเพิ่มมากขึ้นจึงเชื่อว่าสินค้าจากไทยจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ ประเมินขณะนี้พบว่าประเทศไทยมีแบรนด์จำนวนมากที่ผลิตสินค้าน่าสนใจแต่กลับยังไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ

“เราเชื่อว่าการจับคู่แบรนด์เหล่านี้กับเครื่องมือต่างๆ บนแพลตฟอร์มของเถาเป่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือดิจิทัล ข้อมูลเชิงลึก และการสนับสนุนจากผู้ค้ามืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการค้นหาความต้องการของลูกค้าจีน พร้อมจุดประกายให้ผู้ติดตามทดลองสิ่งใหม่ๆ จะเป็นทางลัดให้แบรนด์เอสเอ็มอีของไทยก้าวสู่เถาเป่ามาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์บนมือถือที่ใหญ่ที่สุดของจีนได้อย่างรวดเร็ว”

ปัจจุบัน เถาเป่าโกลบอลมีผู้ค้ากว่า 400 คนในประเทศไทย โดยสินค้าที่มีวางจำหน่ายมากที่สุดคือ เครื่องนอน ความงาม และอาหาร ตลอดทั้งปีนี้บริษัทจะร่วมมือกับผู้ค้าในประเทศไทยนำเสนอแบรนด์ไทยที่น่าสนใจไปยังลูกค้าของเถาเป่าในจีนให้มากขึ้น รวมถึงช่วยผลักดันการส่งออกของไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น แคมเปญการตลาด การอบรมผู้ค้า และการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ค้ากับแบรนด์

157848690440

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การค้ารูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีการเติบโตที่รวดเร็วและมีแนวโน้มว่าจะมีอิทธิพลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อปี 2562 ผลสำรวจโดยอีมาร์เก็ตเตอร์ชี้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซโลกมีมูลค่าสูงถึง 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ เติบโต 20.7% มีสัดส่วน 14.1% ของภาพรวมตลาดค้าปลีกโลก

ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ละตินอเมริกา และแอฟริกา เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งอีคอมเมิร์ซมีมูลค่ากว่า 1.935 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 54.7% ของอีคอมเมิร์ซโลก

อย่างไรก็ตาม การที่เถาเป่าโกลบอลเลือกไทยเป็นตลาดสำคัญในการเปิดตัวโครงการนี้จะช่วยทำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกมากขึ้น ขณะเดียวกันเสริมสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน นับเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันความนิยมของสินค้าไทยในตลาดซื้อขายออนไลน์จีนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนของภาครัฐเองมีนโยบายผลักดันการเติบโตการค้าข้ามพรมแดนเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าวควบคู่กันไปเช่นกัน