'ดีอีเอส' ตื่นหลัง 'เน็ตประชารัฐ' สุดอืด
ขีดเส้น 3 เดือนทีโอทีต้องเพิ่มความเร็วเน็ตทันที
“นอกจากนี้ ตนเองยังได้สั่งการให้ นายภูเวียง ประคำมินทร์ รองปลัดกระทรวงดีอีเอส เป็นประธานในการตรวสอบการทำโครงการเน็ตชายขอบระหว่างทีโอทีและกสทช.ที่มีปัญหาไม่สามารถตรวจรับงานได้ อย่างใกล้ชิด “
ขณะเดียวกันยังได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่ ทีโอที ทำสัญญากับกระทรวงดีอีเอส ในการทำบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ความเร็ว 100 /50 Mbps จำนวน 10,000 จุด ตามศูนย์ดิจิทัลชุมชน ด้วยการเช่าใช้บริการแห่งละ 3,500 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน ในโครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน งบประมาณ 2 ล้านบาท ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สดช.) แต่ไม่สามารถเซ็นการจ่ายเงินได้ เนื่องจากพบว่ามีสัญญาอยู่ 2 ฉบับที่ไม่เหมือนกัน
สัญญาแรกที่ให้ทีโอทีดำเนินการคือมีการกำหนดเสปคของอุปกรณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทีโอที ขอเปลี่ยนสเปคเป็นอีกแบบหนึ่งที่ไม่ตรงกับสัญญาแต่อ้างว่าเป็นสเปคที่ดีกว่า กระทรวงฯจึงไม่ควรคัดค้านในเมื่อได้ของดีกว่า แพงกว่า ในงบประมาณเดิม ทำไมถึงไม่เอา ทำให้กระทรวงฯต้องนำสัญญาการแก้ไขสเปคตามที่ทีโอทีเสนอไปให้อัยการสูงสุดตีความและเห็นชอบว่าทำได้ ส่งกลับให้สดช. ว่าจ้างทีโอทีดำเนินการได้
ทว่า เมื่อดำเนินการไปแล้ว กลับพบว่ามีสัญญาอีกฉบับหนึ่งที่มีการแก้ไขระยะเวลาโครงการไม่ตรงกับสัญญาที่ส่งให้อัยการสูงสุดตีความ สอดใส้เข้ามาให้กระทรวงฯเซ็นรับงาน เพื่อให้ตรงกับระยะเวลาที่ทีโอทีดำเนินการไปก่อนหน้าที่จะมีการเซ็นสัญญา โดยมีลายเซ็นต์ของผู้บริหาร สดช.ในยุคนั้นคือ นางปิยะนุช วุฒิสอน เลขาธิการสดช.อยู่ด้วย ทำให้กระทรวงไม่สามารถเซ็นรับงานได้จนกว่าจะตรวจสอบหาความจริงก่อน หากตนเองไม่ตั้งกรรมการสอบ ตนเองจะมีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่